วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562

12— Touch, make love, taste you




12— Touch, make love, taste you




            “เฮียเคยไหม?” เอ่ยถามออกไปพร้อมกับช้อนสายตาขึ้นมามองช้า ๆ สายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังว่าคำตอบของเฮียนั้นจะออกมาในแบบที่ตัวเองต้องการ

            แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นอย่างนั้น

            “เคยจูบ แต่ไม่เคยทำอะไรแบบนั้น”

            “กับพี่ยิหวาเหรอ?”

            “…” คนถูกถามเงียบไป มองหน้าน้องด้วยใจที่เต้นรัว ไม่ต้องตอบก็น่าจะรู้แล้วว่าคนที่เขาเคยจูบด้วยก็ต้องเป็นแฟนเก่าตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็เกรงว่าน้องจะเสียใจจนเก็บไปคิดมาก

            ริมฝีปากของเฮียฝุ่นเคลื่อนเข้ามาจูบเบา ๆ ที่ปากของน้องย้ำ ๆ ไม่มีการล่วงล้ำแต่อย่างใดเขาแค่อยากให้ผิงรู้ไว้ว่าต่อให้เขาเคยจูบกับใครมาก่อน แต่สำหรับจูบที่ชอบมากที่สุดนั่นก็คือจูบของผิงผิงคนเดียวเท่านั้น...

            เราสองคนจูบกันเบา ๆ และยังคงไม่มีใครผละออก มือที่เคยกำนิ้วโป้งเฮียฝุ่นเอาไว้ค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปที่แผงอกของอีกคนก่อนจะเลื่อนมันลงมาเรื่อย ๆ ละผ่านชุดนอนที่ปกคลุมกล้ามหน้าท้องของเฮียเอาไว้ เลื่อนมือลงมาช้า ๆ จนในที่สุดมือนั้นก็ลงมาวางทาบทับอยู่บนอวัยวะส่วนกลางของร่างกายที่ตอนนี้กำลังดันตัวออกมาจากเนื้อผ้าที่บางเบาของชุดนอนนั้น

            ไต้ฝุ่นปล่อยให้มือของน้องซุกซนอยู่ตรงนั้นสักพัก มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาประคองใบหน้าหวานพร้อมมอบจูบที่ลึกซึ่งกว่านั้นลงไปในขณะเดียวกันที่มือของผิงก็ค่อย ๆ เค้นคลึงส่วนนั้นเบา ๆ คล้ายจะนวดให้มันผ่อนคลายแต่หารู้ไม่ว่ามันกำลังทำให้เขาอึดอัดจนแทบอยากจะกดร่างของน้องให้จมลงไปกับเตียงซะตั้งแต่ตอนนี้

            “เฮียตื่นเต้นกว่าผิงอีก...รู้ตัวไหม” เสี้ยววินาทีที่ผละจูบออกมา เขาเงยหน้าขึ้นไปพูดแซวอีกคนที่นั่งเกร็งจนตัวแข็ง ตรงนั้นก็แข็ง และมือของน้องก็ยังคงไม่ละออกไปจากส่วนนั้นคล้ายกำลังถูกใจกับมัน

            แต่คนที่กำลังทรมานที่สุดเห็นจะเป็นเฮียฝุ่นที่นั่งหน้าแดงอยู่ตรงนี้

            “เก่งเหรอเรา ตัวก็แค่นี้”

            “ไม่แข็งเท่าเฮียละกัน”

            “ขอโทษ”

            “ขอโทษเรื่องอะไร?”

            “ขอโทษที่ทำให้ผิงร้องไห้ถ้าคืนนี้เฮียจะเอาจริง”

            “อ๊ะ—” ร่างบางที่เคยซุกซนถูกดันให้จมลงไปบนที่นอนหลังกว้าง ร่างสูงทาบทับร่างกายลงมาก่อนจะใช้ริมฝีปากตัวเองบดขยี้จูบลงไปอีกครั้งคราวนี้ไม่ใช่จูบแบบผิวเผินแต่เป็นจูบที่ลึกซึ้งกว่าครั้งไหน

            ลิ้นที่สอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกันไปมาทำเอาผิงผิงตั้งตัวไม่ทันรีบยกมือขึ้นคล้องคอร่างที่คร่อมอยู่ด้านบนเอาไว้ ปล่อยใจให้เป็นไปตามความรู้สึกของกันและกัน ปล่อยร่างกายให้โอนอ่อนตามการชักนำของพี่ชายคนรัก

            ผิงไม่กลัวอะไรทั้งนั้นหากว่าคืนนี้เราสองคนจะมีอะไรกัน เพราะเขาเชื่อใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้จะรักและดูแลเขาได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากผ่านคืนนี้ไปแล้วก็ตาม

            ฮ่ะ เฮีย...”

            “อืม” จูบที่ช่ำชองอย่างคนเป็นงานผละออกมาเมื่อเริ่มรู้สึกว่าน้องกำลังจะขาดอากาศหายใจเขาเลยเปลี่ยนไปให้ความสนใจตรงส่วนอื่นแทน

            ปลายจมูกโด่งเคลื่อนไปตามซอกคอขาวใช้ริมฝีปากขบเม้มไปตามร่างกายของน้องจนเกิดเป็นรอยแดง มือที่เคยปล่อยเป็นอิสระค่อย ๆ เลื่อนลงไปจัดการกับเสื้อผ้าของน้องจนมันค่อย ๆ หลุดออกไปทีละชิ้น ๆ ซึ่งน้องเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนในที่สุดตอนนี้ตัวผิงผิงไม่เหลือเสื้อผ้าแม้แต่เพียงชิ้นเดียวอยู่บนเรือนร่างนี้อีกต่อไป

            ไต้ฝุ่นยื่นมือไปกดปิดสวิตซ์ไฟข้างหัวเตียงจนห้องทั้งห้องที่เคยสว่างดับมืด เหลือเพียงแสงจากโคมไฟสีส้มข้างหัวเตียงเพียงเท่านั้นที่ยังคงให้แสงสว่างอยู่

            ปลายลิ้นละเมียดละไมช่วงชิมความหวานจากร่างกายของน้องตั้งแต่ไหปลาร้าเรื่อยลงมาจนถึงหน้าอก ที่ไม่ต้องเปิดไฟก็รู้ว่ามันน่ามองมากเพียงไหนรวมไปถึงยอดอกที่เริ่มชูชันขึ้นมา นิ้วชี้กับนิ้วโป้งค่อย ๆ ขยับไปสัมผัสมันเบา ๆ จนน้องสะดุ้งตกใจ

            “อ๊ะ”    

            เสียงร้องครางเล็ดรอดออกมาแผ่วเบาเมื่อปลายลิ้นของคนด้านบนเริ่มหยอกล้อกับยอดอกรัวเร็วมากขึ้นกว่าเดิมจนปลายเท้าทั้งสองข้างเริ่มวางไม่ติดเตียง ต้องค่อยจิกเกร็งปลายเท้าลงไปบนที่นอนเพื่อระบายความทรมานที่สั่งสมอยู่ข้างในให้มันออกมา

            เฮียฝุ่นดูมีความสุขที่ได้สัมผัสร่างกายของน้องอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มือที่คอยบีบเค้นไปตามเนื้อเนียนยิ่งทำให้ผิงผิงเคลิ้มไปตามอารมณ์ที่อีกคนมอบให้

            “เฮีย— ฮ่ะ” เสียงหอบหายใจดังขึ้นมาให้ได้ยิน ร่างสูงค่อย ๆ ผละตัวลุกขึ้นขยับมือไปดึงลิ้นชักข้างหัวเตียงหวังจะหยิบอะไรบางอย่างออกมา แต่กลับหาไม่เจอจนเขาเริ่มหงุดหงิดจนต้องละใบหน้าที่กำลังสาละวนอยู่บนเรือนร่างของน้องออกมาแล้วขยับตัวชะโงกไปหาของที่อยู่ในนั้นจนน้องเริ่มสงสัย

            “หาอะไรเหรอ

            “ไอ้เชี่ยฟ้า!” เฮียฝุ่นไม่ตอบแต่กลับสบถออกมาอย่างหัวเสีย

            ร่างสูงหยัดกายเตรียมจะลุกเดินลงจากเตียง แต่ทว่าในตอนนั้นมือของน้องกลับรีบยื่นออกมาคว้าท่อนแขนของอีกคนเอาไว้ได้ทัน

            “เฮียหาอะไร”

            “ถุงยางหมด เดี๋ยวเฮียมา”

            พูดจบเฮียฝุ่นก็ส่งมือมาลูบหัวน้องไปพลาง ๆ แม้ว่าตอนนี้จะมีอารมณ์มากขนาดไหนถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางสดกับน้องอย่างแน่นอน เพราะรู้ว่ามันจะเจ็บยังไงซะครั้งแรกของเรามันต้องเป็นความทรงจำที่ดี ไม่ใช่เกิดจากความทรมานเพราะความมักง่ายของเขาแต่เพียงผู้เดียว

           
            ก๊อก ก๊อก ก๊อก

            เสียงเคาะประตูหน้าห้องนอนห้องหนึ่งที่อยู่บนชั้นสามของบ้านดังขึ้น ไต้ฝุ่นยืนเท้าเอวเคาะประตูห้องพี่ชายฝาแฝดด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

            ที่ผ่านมาก็รู้มาโดยตลอดว่าเวลาที่ไม่ได้ซื้อถุงยางมาจะมีคนนึงในบ้านชอบแอบเข้ามาเอาถุงยางในห้องเขาไปใช้ก่อน แต่เอาไปใช้จนหมดแบบนี้แล้วไม่ยอมซื้อมาคืนอีกมันก็น่าด่าไหมล่ะ

          รู้ว่าไซซ์เดียวกัน แต่ก็ช่วยเกรงใจกันหน่อยได้ไหม

            “มีไร จะนอน” ใบหน้าเรียบตึงของพี่ชายที่หน้าเหมือนกันเป๊ะเปิดประตูออกมาด้วยสภาพที่ก็...ไม่ต้องบอกหรอกว่าผ่านอะไรมาบ้าง ผมเผ้ายุ่งเหยิงขนาดนั้นยังดีที่ใส่กางเกงออกมาเปิดประตูให้ น้องก็ขอบคุณที่ยังมีความเกรงใจอยู่บ้าง แต่เรื่องถุงยางน่ะมันก็ต้องด่ากันหน่อย

            “เอาถุงยางมา”

            “ห๊ะ จะใช้? แล้วนึกยังไงใส่ชุดนอนสีเหลืองขนาดนี้” เฮียฟ้ากวาดสายตามองร่างน้องชายตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดนอนเป็ดสีเหลืองอ๋อยขนาดนี้ ไม่มีทางที่มันจะหยิบออกมาใส่เองแน่

            “...”

            “คอสเพลย์?”

            “ก็เหี้ยละ เข้ามาเอาไปใช้จนหมดแล้วไม่ยอมซื้อมาคืนมันใช้ได้ที่ไหน เอาของตัวเองมาเลยนะ”

            “แป๊บ”

            พอเห็นท่าทางที่ดูงอแงจนเฮียฟ้าหลุดหัวเราะออกมา ร่างสูงหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องที่มืดสนิทเหมือนกับว่าเข้านอนกันไปหมดแล้ว สายฟ้าหายเข้าไปในห้องสักพักก็เดินกลับออกมาพร้อมกับสิ่งของสำคัญในมือยื่นไปให้ไต้ฝุ่นที่ยืนรออยู่หน้าห้องทันที

            “เหลือแค่นี้เหรอ”

            “จะใช้อะไรเยอะแยะ เฮียต้องใช้มากกว่าอีก” ไม่วายโดนพี่ชายบ่นจนได้

            “เห็นว่าใยไหมเป็นผู้หญิงหรอกนะ”

            “...”

            “เฮีย ครั้งแรกจะเจ็บปะ”

            “ใคร?” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเพราะเข้าใจว่าไต้ฝุ่นหมายถึงเขา

            “ไม่ใช่ หมายถึงน้องอะจะเจ็บไหม ทำยังไงถึงไม่เจ็บ”

            “ให้ขึ้นดิ ไม่เจ็บหรอก”

            “ยังไง”

            “อย่าให้กูต้องสอนมึงทุกเรื่องได้ไหมฝุ่น โตแล้วหัดเรียนรู้เองซะบ้าง ไม่ต้องมาเคาะแล้วนะจะนอน”

            ไร้เยื้อใยที่สุด สายฟ้ารีบดันประตูปิดต่อหน้าน้องชายที่ยืนทำหน้าตาเหมือนกับว่ายังไม่มั่นใจเรื่องแบบนั้นอยู่ จริง ๆ เราสองคนเป็นพี่น้องที่คุยกันทุกเรื่อง เรื่องบนเตียงก็คุยกันตลอดแต่เห็นทีคราวนี้เขาคงต้องเรียนรู้มันด้วยตัวเองซะแล้วสิ

            ประตูห้องนอนของไต้ฝุ่นเปิดเข้ามาอีกครั้งก่อนจะถูกปิดล็อกลงกลอนเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้ใครมารบกวนเวลาส่วนตัวตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงเช้า เสียงฟ้าร้องด้านนอกดูเหมือนจะยังไม่สงบลง เช่นเดียวกันกับส่วนนั้นของเขาที่มันยังคงรู้สึกคับแน่นอยู่ตลอดเวลา

            สองแขนไขว้กันไว้ข้างหน้าก่อนจะจัดการถอดชุดนอนท่อนบนออก แล้วจึงเลื่อนมือลงมาถอดกางเกงนอนขายาวรวมไปถึงอันเดอร์แวร์สีดำยี่ห้อ Emporio Armani ลงไปกองที่พื้นอย่างไม่ใยดี ผิงผิงที่นั่งห่อตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มได้แต่จ้องมองเรือนร่างนั้นที่กำลังเดินเข้ามาตาปริบ ๆ

            เฮียฝุ่นตอนนี้ดูร้อนแรงจนผิงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่านี่น่ะเหรอคือผู้ชายที่แสนอบอุ่นที่เขาเคยรู้จัก จากท่าทางการเดินมาจนถึงเตียง ไหนจะมือที่ยังวุ่นอยู่กับการแกะกล่องสี่เหลี่ยมสีเงินในมือนั่นอีกยิ่งทำให้ผิงผิงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง อยากจะมุดหน้าหนีหายไปกับกองผ้าห่มเสียตั้งแต่ตอนนี้

            แต่คิดไปคิดมาแล้วเขาจะหนีไปไหนได้ ในเมื่อตอนแรกเขาก็เป็นคนขอเฮียฝุ่นทำเรื่องแบบนี้เอง

            ร่างสูงขยับเข้ามาคุกเข่าสูงอยู่ตรงหน้า ส่วนแข็งขืนที่เริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นอยู่ไม่ห่างจากใบหน้าของน้อง ฟอยล์สีเงินที่คาบอยู่ตรงมุมปากยิ่งทำให้ผู้ชายคนนี้ดูฮอตมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว วินาทีที่ร่างสูงใช้ปากฉีกซองถุงยางออกเล่นเอาผิงผิงต้องลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

            สองมือบีบเข้าหากันแน่นเพื่อรวบรวมความกล้าและซ่อนอาการเขินอายเอาไว้

            “ใส่ให้หน่อย”

            “มะ...ไม่เคย” รีบปฏิเสธเสียงสั่น

            “ลอง”

            กายสูงย่อตัวลงให้ใบหน้าของเราอยู่ในระดับเดียวกัน รอยยิ้มที่ปรากฏตรงมุมปากที่ยังคาบซองสีเงินนั้นยิ่งทำให้ผิงผิงสั่นไปหมดทั้งตัวแต่ก็ใจสู้ค่อย ๆ ยื่นมือขึ้นไปหยิบเอาสิ่งนั้นตรงปากเฮียมาถือไว้ ก่อนที่มือบางจะยื่นไปประคองแท่งกายของอีกคนขึ้นมารูดรั้งเบา ๆ คล้ายยังไม่กล้าสัมผัสมันอย่างลึกซึ้งจนคนพี่ต้องเขยิบตัวเข้าไปหา 

            เราสองคนก้มลงมองตรงส่วนนั้นพร้อม ๆ กัน

            “ใช้ปากใส่นะ ไม่เอามือ”

            “เฮียอย่าแกล้ง ฮือ”

            “ไม่ได้แกล้ง แต่อยากให้ผิงใช้ปาก ได้ไหมครับ?”

            อ้อนอีกแล้วนะ ไม่ไหวแล้วนะ ผิงเหมือนจะตายทุกครั้งที่ถูกเฮียอ้อนแบบนี้แต่สุดท้ายถามว่าเขายอมทำตามไหมก็คงต้องยอม เมื่อถุงยางถูกนำไปวางไว้บนส่วนหัวใบหน้าน่ารักก็รีบก้มตามลงไปจัดการครอบปากลงให้พลาสติกชิ้นนั้นรูดไปตามการเคลื่อนไหวของปากที่อุ่นร้อน

            “ซี๊ดด...” แค่น้องใส่ให้ก็ทำเอาเฮียฝุ่นเสียวไปทั้งตัว

            เมื่อเห็นร่างเล็กทำตัวน่ารักกับเขาก็ไม่วายก้มลงไปมอบจูบให้เป็นรางวัล จูบที่ดูดดื่มกว่าครั้งไหน ๆ ร่างสูงเอนกายดันร่างน้องให้นอนราบลงไปบนที่นอน ก่อนที่เขาจะทาบทับตามลงไป ริมฝีปากยังคงไม่หยุดสัมผัสกันเช่นเดียวกับที่ตอนนี้ก้านนิ้วยาวค่อย ๆ เลื่อนลงมาเค้นคลึงตรงหน้าช่องทางรักด้านหลังของน้องที่มันเต้นตุบ ๆ ราวกับกำลังตื่นกลัวกับความแปลกใหม่ที่ใกล้จะได้เข้าไปสัมผัสความอบอุ่นในไม่ช้านี้

            สองร่างแลกจูบกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งนิ้วกลางของเฮียค่อย ๆ ดันเข้าไปตรงช่องทางนั้นทีละนิด ๆ จนเกือบจะสุดข้อ เสียงร้องครางของน้องก็เริ่มดังขึ้นจนเขาต้องหยุดชะงัก ผ่อนปรนให้อีกฝ่ายค่อย ๆ ปรับตัว เมื่อเริ่มโอเคแล้วจึงค่อย ๆ ดันมันเข้าไปจนเกือบสุดนิ้ว

            จากหนึ่งขยับไปเป็นสอง เคลื่อนไหวเข้าออกจนเรียกเสียงร้องระงมปนเสียงสูดปากจากเขาได้เป็นอย่างดี

            “อ๊ะ มัน...อึดอัด”

            “ของเฮียอึดอัดกว่านี้อีก” กระซิบข้างหูเสียงแหบพร่า

            “ฮึก...”   

            กายหนาเอนตัวนอนลงบนที่นอนแล้วจัดการพลิกร่างให้น้องขึ้นมานั่งคร่อมทับตรงแกนกายของเขาเอาไว้ ผิงผิงดูสั่นราวกับลูกนกตกน้ำแต่ก็ยังไม่ลดละเลิกความพยายาม วางฝ่ามือไว้บนอกแกร่งของพี่ชายคนรัก ในขณะเดียวกันที่เฮียฝุ่นเริ่มจับส่วนนั้นมาจ่อเอาไว้ตรงช่องทางด้านหลังของน้องพอดี

            “สอดเองได้ไหม โอเคเมื่อไหร่ก็เริ่มเลย”

            เขาเพียงแค่นำทางแต่ไม่ได้เป็นคนพามันเข้าไปเพราะตั้งใจจะให้น้องควบคุมมันเองนั่นจึงทำให้ผิงผิงต้องเลื่อนมือลงไปจับที่ท่อนเอ็นของเฮียฝุ่น ค่อย ๆ ใช้ส่วนหัวถูไถไปตรงหน้าทางเข้าก่อน แต่เพียงเท่านี้ก็แทบทำให้เฮียฝุ่นเกือบเสร็จตั้งแต่ยังไม่ทันได้เข้าไปในตัวของน้องแล้ว

            “อ๊ะ อื้อ! ... เฮีย ฮ่ะ อื้ออ”

            “ค่อย ๆ ” ยื่นมือขึ้นไปลูบแก้มเนียนเบา ๆ คล้ายกำลังปลอบประโลมในยามที่ส่วนนั้นค่อย ๆ เสียดแทงเข้าไปในกายของน้อง ทีละนิด ๆ  จนแท่งร้อนผลุบหายเข้าไปด้านในจนเกือบครึ่งลำ

            “เจ็บ...” หางตาเริ่มมีน้ำใส ๆ ซึมออกมาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าน้องกำลังเจ็บปวดอยู่ ไม่ต่างกันเจ้าของแกนกายที่กำลังรุกล้ำเข้าไปก็รู้สึกแน่นมากจนไม่สามารถขยับเข้าไปต่อได้ 

            มันทั้งร้อน ทั้งนุ่ม น้องไม่ควรรัดเขาแรงขนาดนี้เลยเพราะมันทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

            “ไม่ต้องรีบ” พยายามปลอบโยนน้อง อยากให้มันค่อยเป็นค่อยไป มือหนาดึงรั้งร่างน้องให้ทิ้งตัวลงมานอนบนอกเขาแล้วใช้สองแขนโอบร่างบางไว้หลวม ๆ ลูบไปตามกระดูกสันหลังเรื่อยลงมาจนถึงแก้มก้นที่เด้งสู้มือ

            บีบเค้นให้หายมันเขี้ยวจนห้ามใจไม่อยู่ก็เลยเผลอบีบแรงจนเกินไป

            สะโพกสอบค่อย ๆ ขยับช้า ๆ สวนขึ้นไปหวังจะช่วยออกแรงจนส่วนนั้นค่อย ๆ ขยับเข้าไปทีละนิด ๆ จนเกือบสุดลำเขาถึงคิดได้ว่าควรพอได้แล้วเพราะน้องอาจจะอึดอัดจนอาจจะทำให้เซ็กส์ของเรากลายเป็นความทรมานไปเลยก็ได้

            “อ๊ะ อ๊ะ..อื้มม”

            ร่างเล็กขยับกายลุกขึ้นนั่งดี ๆ สองมือวางทาบลงมาบนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ สะโพกกลมกลึงขยับขึ้นลงช้า ๆ เนิบนาบใบหน้าน่ารักเชิดสูงขึ้นราวกับต้องการระบายอารมณ์ของตัวเองไปพลาง ๆ

            มือหนาเลื่อนขึ้นไปสัมผัสที่ยอดอกของน้องอีกครั้งระหว่างที่ร่างบางกำลังขยับกายขึ้นลงอยู่บนตัว และดูเหมือนว่าท่านี้มันไม่ได้ทำให้น้องเจ็บปวดอย่างที่กังวลเอาไว้ในตอนแรก เป็นไปตามคำแนะนำของเฮียฟ้าจริง ๆ ด้วย ก็นั่นแหละเขารู้ว่าเฮียกับเมียทำเรื่องแบบนี้กันมาแล้ว

            การเชื่อคนที่มีประสบการณ์มาก่อนก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด

            “อ๊ะ...” 

            ตอนนี้เสียงฟ้าร้องด้านนอกเริ่มเงียบลง ฝนที่เคยตกหนักก็ไม่ได้หนักเท่ากับตอนหัวค่ำแล้ว นาฬิกาดิจิตอลที่ติดอยู่บนผนังบอกเวลาว่าตอนนี้เริ่มดึกมากแล้ว ร่างที่ถูกเปลี่ยนให้สลับลงมานอนอยู่ใต้ร่างตอนนี้เริ่มจะหมดแรงหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเสร็จสมกันไปคนละรอบ

            คราวนี้ก็ถึงตาที่เขาจะได้คุมเกมเองบางแล้ว เอวสอบที่แข็งแกร่งกระแทกกายเข้าไปจนร่างบางขยับเขยื้อนจนตัวโยน ร้องเสียงครางอื้ออึงออกมาเป็นพัก ๆ แต่ไม่ใช่เสียงที่แสดงออกถึงความเจ็บปวด น่าจะเป็นเสียงที่มาจากความเสียวมากกว่า

            ส่วนนั้นที่เชื่อมต่อร่างกายของเรายังคงขยับเข้าออกพร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นที่เฉอะแฉะเป็นตัวหล่อลื่นชั้นดี แม้ว่าคืนนี้เขาจะไม่ได้ใช้เจลหล่อลื่นเข้าช่วยก็ถือว่าโชคดีที่น้องไม่ได้เจ็บจนทรมานมากขนาดนั้น

            แต่พรุ่งนี้อาการตอนตื่นนอนขึ้นมาจะเป็นอย่างไรเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน 

            คิดแล้วก็รู้สึกเสียวสันหลังแปลก ๆ ไม่ได้เสียวเพราะกิจกรรมตอนนี้หรอกนะ แต่เป็นการเสียวที่กลัวว่าพ่อเขาจะเอาปืนมายิงหัวเข้าสักวันเพราะพาลูกเขาหนีมาไม่พอ ยังมาทำเรื่องแบบนี้ด้วยกันอีก

            “อ๊ะ อ๊ะ” 

            “จะเสร็จยัง?” เฮียฝุ่นก้มหน้าลงไปกระซิบถามข้างใบหูน้อง

            “กะ...ใกล้แล้ว อื้ออ” คำว่าใกล้ของน้องดูเหมือนจะคาดคะเนผิดไปเพราะจู่ ๆ น้ำรักก็พวยพุ่งออกมาจนเลอะเทอะเต็มหน้าท้องของน้องไปหมด

            ยิ่งเห็นแบบนั้นเขายิ่งได้ใจรีบสวนสะโพกกระแทกใส่จนถี่ยิบเกิดเป็นเสียงเนื้อที่เสียดสีกันจนน่าอายสักพักส่วนนั้นก็ถูกทอดถอนออกมา

            “ขอปล่อยในปากได้ไหม อา…”

            “อื้ม” มือหนารูดถุงยางออกจากแกนกายในจังหวะเดียวกันที่น้องผงกหัวขึ้นมารับมันเข้าไปในปากจนคับแน่นไปหมด น้ำรักสีขาวไหลเข้าไปในปากของน้องก่อนที่เด็กน้อยจะกลืนมันลงไปในคอ

            ทุกอย่างค่อย ๆ สงบลงอย่างเชื่องช้า ลูกกระเดือกที่เคลื่อนขึ้นลงเป็นที่น่าพอใจสำหรับเฮียฝุ่นมากว่าน้องคงไม่รังเกียจทุกสิ่งทุกอย่างที่ออกมาจากร่างกายของเขา 

            “อย่าน่ารักมากขนาดนี้ได้ไหม แค่นี้เฮียก็เอาแต่ใจมากพอแล้ว”

            “เฮียจะเอาแต่ใจหรือจะเอาผิง” ช้อนสายตาน่ารักขึ้นมาจ้องมองร่างสูงที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า

            “เอาผิงครับ”

            “งั้นไปต่อกันในห้องน้ำไหม”

            “หึ...อย่าดื้อสิ”

            “...”     

            “แค่นี้เฮียก็มองหน้าพ่อเราไม่ติดแล้วนะ”

            ไม่ว่าเปล่าร่างสูงรีบช้อนร่างของน้องขึ้นแนบอก จัดการพาอีกคนเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีพร้อมกับถุงยางชิ้นสุดท้ายที่ยังคงเหลืออยู่ เฮียฟ้าให้มาแค่ไหนเขาก็ใช้แค่นั้น

          ไม่ขาดและไม่เหลือเลยแม้แต่ชิ้นเดียว 

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562

11 - ใจผมเป็นของคุณ









         “ปิ๊ก เราเอากันตรงนี้ได้ไหม”

            ได้ไหมไม่รู้ รู้แค่พอจ้านร้องขอแบบนั้นเจ้าตัวก็รีบเลื่อนมือลงไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์สีดำที่ใส่มาออกทันที ปิ๊กรีบหันไปมองรอบ ๆ ข้าง โชคดีที่แถวนี้แทบไม่มีใครเดินผ่านมาเลย คนที่นั่งอยู่ริมชายหาดก็ค่อนข้างห่างไกลกันออกไป แต่ครั้นจะทำกันตรงนี้มันก็ควรที่จะเซฟมากกว่านี้หน่อย

            ปิ๊กตัดสินใจปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำออกจนถึงเม็ดสุดท้ายแล้วถอดออกมาสะบัดให้มันคลี่ออกแล้วจัดการคลุมช่วงล่างของเราทั้งสองคนเอาไว้ ทำให้ตอนนี้ร่างของปิ๊กมีเพียงแค่กางเกงยีนส์หลงเหลืออยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น 

            “เดี๋ยวผมช่วย” มือหนาเลื่อนลงไปปลดซิปกางเกงของตัวเองออกเช่นเดียวกันที่จ้านก็ปลดของตัวเองออกจนเสร็จหมดแล้ว

            ร่างสูงดูลังเลที่จะทำกันตรงนี้ ยิ่งในยามที่ส่วนแข็งขืนนั้นถูกควักออกมาจากกางเกงโดยที่ต่างฝ่ายแทบไม่ได้แก้ผ้าออกเลยด้วยซ้ำ ยกเว้นเสื้อของปิ๊ก

            การเคลื่อนไหวภายใต้เสื้อเชิ้ตนั้นถือว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งเพราะเราไม่รู้ว่าใต้ล่างนั้นมันมีอะไรกำลังเสียดสีกันอยู่บ้าง

            “อ...อื้อ ปิ๊กก จ้านอยาก” ซบใบหน้าลงไปบนไหล่ที่เปลือยเปล่าพร้อมกับส่งเสียงออดอ้อนออกมา

            ใครที่มองมาทางนี้ก็คงคิดว่าเป็นแค่คู่รักที่มาพลอดรักกันเท่านั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้เลย จนกระทั่งมือของปิ๊กสอดเข้าไปใต้เสื้อสัมผัสเข้ากับแก่นกายของจ้านที่มันแข็งตัวสู้มือเขา เช่นเดียวกันส่วนนั้นของปิ๊กมันก็แข็งจนดุนดันสะโพกของจ้านจนแทบนั่งไม่ติดแล้ว

            “ใส่เข้ามา อื้อ อยากให้ปิ๊กใส่” คำร้องขอของจ้านเกือบจะเป็นผล 

            แต่พอลองคิดดูอีกทีหากใส่ตอนนี้จ้านคงจะเจ็บน่าดู ครั้นจะใช้นิ้วตัวเองก่อนมันก็คงไม่ลื่นขนาดนั้น สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจใช้มือรูดรั้งที่ส่วนอ่อนไหวของจ้านไปเรื่อย ๆ ใช้น้ำตรงนี้แหละ น่าจะพอบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้าง

            “อ๊ะ—”

            เสียงร้องครางดังพอให้ได้ยินกันแค่สองคน แรงขยับใต้เสื้อนั้นยิ่งทำให้ปิ๊กอดใจไม่ไหวใช้แขนอีกข้างคว้าร่างของอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่น แล้วรีบเร่งใช้มือช่วยรัว ๆ ใจจริงก็อยากขึ้นไปทำกันบนห้องเหมือนกัน แต่กว่าจะถึงห้องระหว่างทางเขาคงทนไม่ไหวแน่

            “ป..ปิ๊ก อ๊ะ อึดอัดจัง”

            “อืม จ้านอย่าเบียดสิครับ”

            “จ้านอยากให้ปิ๊กเข้ามาแล้ว— อ๊ะ ปิ๊กก ฮือออ”

            จ้านร้องออกมาจนฟังไม่ได้ศัพท์ไม่รู้ว่าคำไหนเป็นคำไหน สะโพกกลมกลึงก็เอาแต่โยกบดเบียดลงมาที่ส่วนนั้นของปิ๊กจนแทบจะเสร็จทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ไม่รู้ทำไมเพียงแค่ได้ยินเสียงครางชื่อเขาก็แทบทนไม่ไหวแล้วอยากจะจับกดลงเตียงแล้วฟัดให้หายมันเขี้ยวซะเหลือเกิน

            ปิ๊กกก จ...จ้านจะเสร็จ อ๊ะ อยากเสร็จแล้ว”

            “ว่าไงนะครับ ไม่ได้ยินเลยคนเก่ง” ปลายนิ้วโป้งบดขยี้ลงตรงส่วนหัวที่มีน้ำไหลซึมออกมา แต่เขาก็ช่างใจร้าย ไม่ยอมให้คนบนตักปล่อยมันออกมาสักที

          อดทนไว้อย่างนี้นี่แหละตอนปล่อยน้ำจะได้เยอะ ๆ

            “ปิ๊กก เค้าจะเสร็จแล้ว ปล่อยเค้า ฮืออออ” ร้องครวญครางแทบขาดใจเมื่อปิ๊กเริ่มแกล้งหนักขึ้นด้วยการใช้ปลายนิ้วขยี้วนที่ตรงส่วนหัวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปจูบร่างที่สั่นเทิ้มคล้ายกับว่ากำลังทรมานที่ตัวเองโดนแกล้งไม่ให้ปล่อยออกมาสักที

            “รักปิ๊กไหมครับ หื้ม?” จูบซับที่ปรางแก้มเบา ๆ เป็นรางวัลสำหรับความอดทนของคนเก่ง

            “รัก— รักปิ๊กคนเดียว อ๊า!

            เสียงร้องแทบขาดใจของจ้านดังขึ้นทันทีที่ปิ๊กรูดรั้งส่วนนั้นรัวเร็วขึ้นจนในที่สุดร่างบนตักก็ปลดปล่อยของเหลวออกมาจากส่วนปลายกลางลำตัว ปลายนิ้วค่อย ๆ ปาดคราบน้ำเหล่านั้นมาป้ายลงบนช่องทางด้านหลังที่อุ่นร้อนจนแทบอดใจไม่ไหวอยากจะเข้าไปข้างในเต็มทนแล้ว

            “ปิ๊กไม่อยากทำกับจ้านตอนเมาเลยรู้ไหม” กระซิบบอกข้างหูคนที่หมดแรงซบอยู่บนอกเขา

            “อื้อ ทำเถอะ จ้านไม่ได้เมาขนาดนั้น”

            “ว่าไงนะครับ?” ก้มลงไปถามจนริมฝีปากแทบจะชิดกับใบหน้าคนบนตักแล้ว

            “ปะ...เปล่า จ้านแค่บอกว่า จ้านไม่ได้เมามาก ... แต่ก็เมานั่นแหละ แหะ ๆ ”

            แสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนแต่เสียงหัวเราะนั้นก็คงอยู่ได้ไม่นานเพราะปิ๊กขยับกายประคองให้จ้านนั่งดี ๆ ก่อนจะสอดปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางนั้นทีละนิ้วแล้วขยับเข้าออกช้า ๆ เพียงไม่นานเขาก็ชักมันออกแล้วทดแทนเข้าไปด้วยแกนกายขนาดใหญ่ที่มันแข็งตัวเต็มที่รอการสอดใส่เข้าไปนานแล้ว  

            “อ๊ะ! ป...ปิ๊ก จ้านเจ็บ”

            “หยุดไหม?เพราะกลัวว่าอีกคนจะเจ็บมากก็เลยไม่กล้าขยับต่อ แต่ก็พยายามกอดร่างผอมบางนั้นเอาไว้แน่น ๆ ไม่อยากให้ครั้งแรกของเราต้องทรมานขนาดนี้ แต่มันเลือกไม่ได้

            สถานที่ก็ไม่อำนวย แต่อารมณ์ของคนที่อยากมีอะไรกันมันก็ห้ามไม่ได้

            “จ้าน...รัดปิ๊กแน่นเกินไปหรือเปล่าครับ”

            “น...แน่นเหรอ อ...อื้อ ก็ปิ๊กใหญ่ ฮืออ”

          น่ารัก น่ารักจนอยากรังแก

            จ้านขยับได้ไหม ปิ๊กไม่ถนัด”

            “อ...อื้อ”

            สะโพกกลมค่อย ๆ ขยับลงมาช้า ๆ จนในที่สุดช่องทางที่อุ่นร้อนนั้นก็กลืนกินส่วนอ่อนไหวใจกลางตัวของปิ๊กเข้าไปจนเกือบหมด มันทั้งเจ็บและก็เสียวในเวลาเดียวกัน ร่างที่อยู่ด้านบนค่อย ๆ ออกแรงขย่มลงมาเบา ๆ เนิบนาบก่อนที่เจ้าตัวจะทนไม่ไหวเร่งจังหวะขย่มลงมาบนตักของปิ๊กแรงขึ้นอีก

            สองมือบีบที่หัวไหล่ของแฟนหนุ่มจนเนื้อบริเวณนั้นขึ้นเป็นสีแดง ปิ๊กกดใบหน้าฝังลงไปตรงยอดอกที่ชูชันขึ้นมาทะลุเสื้อยืดที่จ้านใส่อยู่ แลบลิ้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายเลียวนที่ส่วนนั้นจนเนื้อผ้าเปียกชื้นให้เห็นเป็นวงกว้าง

            เสียงร้องครางของจ้านคล้ายคนที่กำลังจะขาดใจยิ่งกดน้ำหนักลงมามากเท่าไหร่ ส่วนนั้นก็ยิ่งเข้าไปลึกมากขึ้นเท่านั้น 

            “อย่าร้องดังสิ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินนะ” ปิ๊กเอ่ยเตือนเมื่อเสียงครางของจ้านเริ่มดังจนเกรงว่าคนแถวนี้จะได้ยินเอา

            ร่างด้านบนโยกกายร่อนเอวอยู่บนตักของปิ๊ก โดยมีเสื้อสีดำปกคลุมเอาไว้ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าอาจจะมีคนถ่ายคลิปไปลงบนโลกโซเชียลก็เป็นได้ ถึงตอนนั้นคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ก็คนจะเอากันมันห้ามกันได้ซะที่ไหนล่ะ

            “อ๊ะ อื้ออ เค้าไม่ไหวแล้วอะปิ๊กก เค้าเจ็บ”

            ดูท่าเหมือนจ้านจะเจ็บมากเมื่อเขาสังเกตเห็นน้ำตาที่ไหลซึมออกมาจากบริเวณหางตาแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจขยับสะโพกสวนขึ้นไปช่วยผ่อนแรงให้อีกคนไม่ต้องขยับมากนักหลังจากนี้ปิ๊กจะทำเอง จะถนอมจ้านให้มากที่สุดเอง

            “จ้านครับ อ่า...”

            “ข...ขอจูบ”

            ปิ๊กเงยหน้าขึ้นไปแล้วจูบปิดปากอีกคนจนเสียงร้องเงียบไป กลายเป็นเสียงอื้ออึงในลำคอแทน ร่างกายที่กำลังขยับตัวอยู่บนผืนทรายริมทะเลที่มีคลื่นซัดเข้าฝั่งกับไอเย็น ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาช่างโรแมนติกและก็ตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

            เสียงเพลงจากงานฟูลมูนที่ปิ๊กแทบไม่ได้เดินเที่ยวเลย เมื่อเสร็จงานก็ได้รับข้อความจากเพื่อนว่าจ้านเมามาก ปิ๊กก็เลยรีบตรงมาที่งานอย่างรวดเร็วแล้วก็เห็นว่าจ้านเมาจริง ๆ ตอนแรกก็ว่าจะพากันกลับขึ้นไปนอนบนห้อง แต่เห็นท่าแล้วคืนนี้ไม่น่าจะได้นอนอย่างที่คิดไว้แล้วแหละ

            “จ้าน อ่า...ซี๊ดดด” ปิ๊กเปล่งเสียงครางกระเส่าออกมาเมื่อจ้านโยกตัวลงมาบนกายที่ตั้งชันอีกครั้งจนเขาคิดว่าอีกไม่นานคงจะปล่อยออกมาแน่ 

            “อ๊ะ—”

          “ขอปล่อยข้างในได้ไหมครับ”

            “...”

            “ออ๊า!”

            บทรักของเรายังไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้ หลังจากที่จบรอบแรกไปปิ๊กก็รีบใส่กางเกงให้จ้านรวมไปถึงหยิบเสื้อของตัวเองขึ้นมาใส่ด้วยก่อนที่จะพากันกลับขึ้นมาบนห้องพักที่โรงแรมอีกครั้ง ท่าเดินของจ้านดูแปลกไป

          ก็แน่ล่ะ...ขนาดของเขาก็ไม่ใช่น้อย ๆ  

          ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิทพร้อมกับใส่กลอนจนล็อคแน่น จ้านรีบหันกลับมาแล้วปลดกระดุมเสื้อของปิ๊กออกด้วยท่าทางที่ดูรีบร้อนกลัวไม่ทันใจจนปิ๊กตกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนเริ่มสานต่อเซ็กส์ของเราในค่ำคืนนี้ซะเอง

            “จ้านไหวเหรอ?” ปิ๊กรวบมือน้อย ๆ นั้นเอาไว้แล้วเอียงใบหน้าถามคนที่เอาแต่จะพุ่งเข้ามาลูกเดียว จ้านไม่พูดอะไร พอปลดกระดุมเสื้อปิ๊กหมดก็เลื่อนมือลงมาปลดกางเกงให้อีกคนต่อ หลังจากนั้นเสื้อผ้าที่ระเกะระกะบนร่างกายบอบบางก็รีบเร่งถอดมันออกอย่างเร็วไว

            ก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินขึ้นไปนั่งรอบนเตียงอย่างรวดเร็ว

            “ปิ๊กมีถุงยางไหมอ่า” ร้องถามเสียงอ่อย จนปิ๊กที่ยืนทำหน้าเหวออยู่ตรงปลายเตียงเมื่อจับใจความได้ว่าอีกคนถามหาอะไรก็เลยรีบพยักหน้ากลับไปทันที

            “ม...มีครับ”

            เขารู้ตัวดีและมีสติครบถ้วน แต่จ้านที่ถามหาถึงถุงยาง เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอให้ทำแล้วก็เป็นคนเดียวกันกับที่กำลังนอนอ้าขารอเขาอยู่บนเตียงตอนนี้...

            ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ... เพราะจ้านเมาอยู่ใช่ไหม (?)

            จ้านไหวเหรอครับ พรุ่งนี้จะเดินไม่ได้เอานะ”

            ไม่ได้ขู่แต่ปิ๊กกำลังพูดความจริง

            เมื่อกี้ตอนอยู่ริมทะเลสถานที่มันยากต่อการมีอะไรกัน แต่เมื่ออยู่บนห้องนี้แล้วแน่นอนว่าปิ๊กจะไม่มีการปรานีทั้งนั้นต่อให้รักมากแค่ไหน ถ้าจ้านยังไม่หยุดน่ารักปิ๊กก็ห้ามตัวเองไม่ได้อีกต่อไป

            “ปิ๊กช่วยทำให้จ้านเดินไม่ได้เลยได้ไหม”   

            ช้อนแววตาใสซื่อขึ้นมามองช้า ๆ

            อีกแล้วกับท่าทางออดอ้อนเหมือนลูกแมว แล้วอย่างนี้ใครจะไปทนไหว

            ในเมื่อจ้านขอ ปิ๊กก็สนองให้จ้านได้ทั้งคืนนั่นแหละ






ยังมีต่อในจอยนะคะ