วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

[ #ฉากบาปฮุนฮาน ] ภาค 3.3


ฉากบาปฮุนฮาน ภาค 3.3
**ลู่หานเป็นผู้หญิงเหมือนเดิม เรื่องต่อจากพาร์ท Winter trip***




            ในวันศุกร์สุดสัปดาห์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเรียนและเป็นวันที่ลู่หานไม่ค่อยจะมีสติกับเรื่องเรียนสักเท่าไหร่นัก เหตุเพราะว่าวันนี้ทั้งวันสุขภาพร่างกายของเธอไม่สู้ดีเลย เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาต้องโหมร่างกายปั่นงานให้เสร็จ ทั้งยังอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้ เมื่อเช้านี้ไข้ก็เลยขึ้นสูงแต่เพราะความไม่อยากขาดเรียน ลู่หานเลยจำทนต้องฝืนร่างกายตัวเองมาโรงเรียนเข้าจนได้
            ไหวนะลู่หาน ไม่ไหวก็กลับบ้านซะ บ่ายนี้เป็นวิชาพละด้วยถ้าขืนไปเจอแดดอีกมีหวังฉันได้หามเธอส่งโรงบาลแน่
            ซึลกิเพื่อนสนิทคนสวยของลู่หานเดินประคองร่างของเพื่อนตัวเล็กไปยังห้องพยาบาลของโรงเรียนหลังจากที่ตั้งแต่ช่วงเช้าเธอสังเกตเห็นสีหน้าของเพื่อนไม่สู้ดีนัก ร่างกายก็ยิ่งบอบบางอยู่ ตัวก็ร้อนจี๋ราวกับหม้อน้ำร้อน เลยร้อนใจให้ซึลกิต้องคะยั้นคะยอลากมาหาคุณครูประจำห้องพยาบาลจนได้
            อะนี่ ยาลดไข้กินซะอีกสามชั่วโมงก็เลิกเรียนแล้ว อดทนหน่อยตามประสาคุณครูประจำห้องพยาบาลของโรงเรียนนี้ที่เริ่มชราภาพไปตามกาลและเวลา นิสัยที่จู้จี้จุกจิกเป็นว่าเล่นทั้งยังดูแลนักเรียนแบบส่งๆ เหมือนทำหน้าที่แค่เฝ้าห้องไปวันๆ แต่เด็กจะเป็นจะตายยังไงก็แล้วแต่ ผลสุดท้ายเดี๋ยวกลับบ้านไปผู้ปกครองเขาก็พาไปหาหมอเองอยู่ดี
            ขอบคุณค่ะ…ลู่หานเอ่ยขอบคุณคุณครูพร้อมกับรับยานั้นมาใส่ปาก ส่วนซึลกิก็ไม่รอช้ารีบรินน้ำที่วางอยู่ข้างเตียงใส่แก้วเพื่อที่จะส่งต่อแก้วน้ำไปยังลู่หานเพื่อกินยา
            แก กลับเหอะ ไข้สูงขนาดนี้เดี๋ยวก็ช็อคหรอก จริงๆป่วยขนาดนี้นี่ไม่ควรมาโรงเรียนแล้วนะเป็นฉันนะ นอนอยู่บ้านไปแล่ว
            เอาน่า ฉันอยู่บ้านตอนนี้ก็เหงาอยู่ดี พี่สาวกับพี่เขยเขาก็ไปหาญาติที่ต่างจังหวัดตั้งหลายวัน”  พี่อี้ชิงกับพี่คริสเพิ่งจะขับรถไปต่างจังหวัดเมื่อเช้านี้นี่เอง ลู่หานก็เลยจำใจต้องอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว จริงๆเธอเองก็อยู่ได้แหละ แต่ช่วงนี้ก็อาจจะยากหน่อยเพราะว่าเธอป่วย ไม่มีใครหายาให้กิน ไม่มีใครคอยเช็ดตัวให้
            คิดแล้วเย็นนี้เห็นทีเธอก็คงต้องถ่อสังขารตัวเองออกไปหาหมอเพียงลำพังซะแล้วสิ
            แล้วนี่จะอยู่ยังไงอะ กลับบ้านไปเธอก็อยู่คนเดียวอีก ให้ฉันไปนอนเป็นเพื่อนไหมซึลกิอาสาขอไปนอนเป็นเพื่อนลู่หานเหตุผลหลักคือเป็นห่วงเพื่อน ส่วนอีกเหตุผลนึงคือถ้าไปบ้านลู่หานก็จะมีเตียงใหญ่ๆให้นอน มีของกินกินเยอะๆ นั่นแหละคือความสบายที่ซึลกิโหยหามานานแสนนาน
            ลู่หาน ตอนนี้หน้าเธอซีดมากเลยรู้ตัวบ้างไหม
            หลังจากที่เพื่อนสาวคนสวยจ้องมองใบหน้าของลู่หานด้วยความสงสารเพียงไม่นานเธอก็ยื่นหลังมือไปอังหน้าผากของคนบนเตียงเพื่อที่จะดูว่าอีกคนตัวร้อนมากแค่ไหน แต่ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีที่หลังมือของซึลกิสัมผัสกับหน้าผากของเพื่อน ความร้อนจากภายในร่างกายของลู่หานทำให้ซึลกิต้องรีบชักมือออกแล้วแสดงสีหน้าที่ดูตกใจขึ้นมาทันตาเห็น
            ตัวแกร้อนมากกกกก ไม่ได้แล้วฉันต้องไปบอกครูก่อน ฮือ ไปหาหมอเดี๋ยวนี้เลยนะ—ทำท่าจะลุกเดินไปบอกคุณครู แต่มืออุ่นๆของลู่หานกลับรั้งข้อมือของเพื่อนสาวเอาไว้ซะก่อน
            ใครจะพาฉันไปหาหมอ...ไม่มีใครอยู่บ้านเลยนะน้ำเสียงเนือยๆเหมือนจะหมดแรงของลู่หานยิ่งทำให้ซึลกิยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก แค่นี้ก็เกรงใจเพื่อนมากพอแล้วแทนที่จะได้ไปเรียนแต่กลับต้องมานั่งเฝ้าเพื่อนที่ป่วยอยู่แบบนี้
            ญาติแกอะ? เพื่อนบ้านหรือว่าใครก็ได้ที่พาแกไปหาหมอได้
            “...ฉันไม่มีลู่หานนึกหน้าใครไม่ออกแล้วตอนนี้
            ข้างในร่างกายของเธอมันร้อนวูบวาบไปหมด หัวก็ตื้อจนยากที่จะคิดถึงคนที่จะช่วยพาเธอออกไปหาหมอได้ในตอนนี้ ก็คงจะมีก็แต่ครูในโรงเรียนนี้นี่แหละ แต่บอกไปเดี๋ยวก็จะหาว่าหาเรื่องกลับบ้านอีก
            แฟนแกก็ไม่มี งั้น...คนนั้นที่แกคุยแชทอะ คนนั้นใคร?”
            หือจากตอนแรกก็ตั้งใจจะข่มตานอนแล้ว แต่พอซึลกิเปิดประเด็นเรื่องผู้ชายในแชทขึ้นมา เปลือกตาสีอ่อนของลู่หานก็เปิดขึ้นมาอีกครั้ง
            ฉ...ฉันไม่อยากรบกวนพี่เขา
            เพราะรู้ดีแก่ใจว่าพี่ที่คุยแชทกับลู่หานทุกวันนี้ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น หลังจากเรื่องราวเหล่านั้นผ่านมาได้สามเดือนกว่าแล้ว ...หลายต่อหลายครั้งที่พี่เขาชอบมากินข้าวที่บ้าน ลู่หานมักจะได้เจอหน้าอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้อะไรต่อกัน ก็แค่เจอหน้า ทักทายแล้วก็กลับตามประสาพี่น้อง
            คือต่อให้เราคุยกันแทบทุกคืน แต่ก็ใช่ว่าลู่หานจะรบกวนเวลาของพี่เขาได้ตลอดเวลานี่นา พี่เขาก็มีงานทำ จะให้มาดูแลเด็กมัธยมปลายแบบเราน่ะเหรอ เขาไม่สนใจอะไรขนาดนั้นหรอก
            ฮัลโหล สวัสดีค่ะ พี่ชายลู่หานเหรอคะ?—“
            ซึลกิ!ร่างเล็กที่ตอนแรกก็นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยบนเตียงอยู่ดีๆ ก็ไม่ทันสังเกตเห็นว่าซึลกิแอบฉกโทรศัพท์มือถือของลู่หานไปกดเปิดดูแล้วเสียมารยาทกดคอลไลน์กับผู้ชายในแชทคนนั้นเข้าจนได้
            เธอน่ะไม่รู้หรอกว่าพี่เขาเป็นใคร รู้แค่ว่าลู่หานคุยแชทกับพี่คนนี้ตลอด ก็เลยคิดว่าคงน่าจะสนิทอยู่พอตัว แต่ขืนรอให้ลู่หานโทรหาน่ะเหรอ คงได้ตายก่อนที่จะไปหาหมอกันพอดี
            หยุด! ฉันคุยเอง ถ้าเธอไม่ให้ฉันโทร ฉันจะฟ้องพี่อี้ว่าแกแอบคุยกับผู้ชาย
            อย่าฟ้องพี่อี้นะ—สุดท้ายลู่หานก็ยอมแพ้ เมื่อซึลกิย้ายตัวเองเดินออกห่างจากเตียงของเพื่อนสาว ทำสีหน้าเย้ยหยันในทำนองว่าอย่าลุกขึ้นมาแย่งโทรศัพท์เชียวนะ ไม่อย่างนั้นเรื่องที่ลู่หานคุยกับผู้ชาย เธอจะโทรไปฟ้องพี่อี้แน่นอน
            พี่คะ ยังถือสายอยู่ไหม
            [ครับ พูดอยู่...] เสียงทุ้มลึกจากปลายสายแทบทำให้เด็กสาวที่เป็นเพื่อนเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้แทบกรีดร้อง ราวกับจะหลอมละลายลงไปบนพื้นห้องพยาบาลนี่อยู่แล้ว ถ้าไม่ติดกับว่าเป็นคนที่ลู่หานคุยอยู่นะ เธอคงตกหลุมรักพี่เขาเพียงแค่เสียงคุยไปแล้วแน่ๆ
            พี่เป็นอะไรกับลู่หานเหรอคะ แฟนปะคะ?”
            ซึลกิ เอาคืนมานะฉันปวดหัว ฉันไม่อยากเล่นกับเธอแล้วลู่หานส่งเสียงอแงดังมาจากเตียงนอนที่ห่างจากตัวร่างบางเพียงไม่กี่เมตร แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ลู่หานจะรวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อแย่งโทรศัพท์จากซึลกิคืนกลับไปได้ในตอนนี้
            [น้องมีอะไรรึเปล่าครับ แล้วนี่ลู่หานอยู่ไหน พี่เหมือนได้ยินเสียงอยู่]
            คืองี้ค่ะพี่ ลู่หานป่วยหนักมากกกกก แบบกินยาแล้วก็ไม่หายสักที เนี่ยต้องพาไปโรงบาล—
            [น้องลู่หานน่ะเหรอ? นี่โทรมาจากโรงเรียนใช่ไหมครับ] เพราะความเป็นห่วงของเซฮุนที่เมื่อได้ยินว่าลู่หานป่วย ไม่ต้องรอให้ซึลกิเล่าอาการมากไปกว่านี้ เพราะเพียงแค่บอกว่าป่วยเขาก็พร้อมที่จะขับรถไปหาได้ตอนนี้เลย
            ดูก็รู้ว่าพี่ชายคนนี้ต้องไม่ใช่แค่พี่ชายสำหรับลู่หานอย่างแน่นอน
            ค่ะพี่ อยู่ห้องพยาบาล
            [งั้นพี่ฝากดูแลน้องด้วยนะ พี่จะไปรับ]
            ค่ะ พี่อ่า พี่คะ อ...อ้าวยังไม่ทันถามเลยว่าชื่ออะไร เพราะความร้อนใจของเซฮุนทำให้ชายหนุ่มรีบตัดสายทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเพราะคนคุยไม่ใช่ลู่หาน เขาจะตัดสายยังไงก็ได้
           
            สุดท้ายแล้วสารจากซึลกิก็ถูกส่งไปถึงผู้ชายในความลับของลู่หานเข้าจนได้ และเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น Maserati Ghibli S คันสีขาวก็ขับเข้ามาจอดอยู่ตรงรั้วหน้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่ร่างพี่ชายคนสนิทของลู่หานที่เร่งรีบออกมาจากร้านกาแฟของตัวเองด้วยเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ บนใบหน้ามีแว่นตาสีดำยี่ห้อดังสวมใส่อยู่
            แค่เพียงออร่าของพี่ชายคนนี้ที่กำลังก้าวเท้าเดินขึ้นมาบนตึก ต่างก็ทำให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนที่เป็นหญิงล้วน ต่างมองเหลียวหลังกันแทบทุกคน ส่วนร่างสูงเองก็ไม่ได้นึกแปลกใจอะไรเพราะเป้าหมายของเขาในตอนนี้คือห้องพยาบาลที่ตอนนี้มีครูประจำชั้นเข้ามาดูอาการอีกรายนึงแล้ว
            ขอโทษนะครับ ผมมารับน้อง...ร่างสูงเดินเข้ามาภายในห้องพยาบาล ปลายนิ้วชี้เกี่ยวแว่นตาถอดออกมาแล้วเหน็บมันเอาไว้ตรงคอเสื้อยืดของเขา พร้อมกับมองหาร่างของน้องลู่หานไปด้วย
            พี่ชายของลู่หานเหรอคะ?” เป็นคุณครูประจำชั้นที่ยืนรออยู่เงยหน้าขึ้นมาถามร่างสูงตาเป็นประกาย แม้แต่ครูบาอาจารย์ยังเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่เลย
            ลู่หานเขาบอกแบบนั้นเหรอครับแอบติดใจอยู่นิดหน่อยว่าลู่หานไปบอกครูว่าอะไรเรื่องสถานะระหว่างเรา แต่ก็ไม่อยากเรื่องมาก อีกใจนึงเขาก็รู้ดีว่าสถานะระหว่างเรายังไม่พร้อมเปิดเผยได้ในตอนนี้
            ค่ะ เขาบอกว่าเพื่อนโทรตามพี่ชายให้แล้ว นี่ก็เพิ่งกลับไปเก็บกระเป๋าที่ห้องเรียนอีกเดี๋ยวก็คงจะมาแล้ว งั้นคุณช่วยเซ็นตรงนี้หน่อยค่ะ จะได้รู้ว่าลู่หานขอกลับบ้านก่อนเวลาใบลาครึ่งวันถูกยื่นมาตรงหน้าของเซฮุน
            ครับเซฮุนก็แสร้งทำเนียนหยิบปากกามาจากมือคุณครูแล้วตวัดเซ็นลายเซ็นตัวเองลงไปในใบนั้น ในช่องของผู้ปกครองซึ่งในความจริงเซฮุนไม่ใช่ผู้ปกครองของลู่หานเลยด้วยซ้ำ แต่ในบางคราจะเรียกว่าผู้ปกครองก็พอจะได้ เพราะลู่หานก็ถือว่าอยู่ในความดูแลของเขาเหมือนกัน
            พี่เซฮุน...เสียงแหบพร่าจากทางด้านหลัง ทำให้เซฮุนต้องหันหน้ากลับไปมอง ก่อนที่จะพบว่าน้องสาวคนสวยของเขากำลังยืนสะพายเป้อยู่ตรงด้านหลังนี่เอง
            ผมพาน้องกลับบ้านได้แล้วใช่ไหมครับหันมาถามย้ำกับคุณครูเพื่อความแน่ใจ
            ได้แล้วค่ะ หายไวๆนะลู่หาน
            ค่ะ คุณครูเด็กสาวโค้งให้กับคุณครูก่อนที่เธอจะถูกมือขนาดใหญ่ของพี่เซฮุนรวบขึ้นมาจับเอาไว้แล้วออกแรงจูงให้เธอเดินออกจากห้องพยาบาลนี้ไป ระหว่างทางที่เดินลงบันไดเธอก็สวนทางกับเพื่อนร่วมรุ่นหลายต่อหลายคน ซึ่งในหลายคนนั้นย่อมรู้ดีว่าพี่คนนี้ไม่ใช่พี่ชายของเธอ
            เพราะว่าลู่หานมีแต่พี่สาวและมีแค่พี่สาวของเธอเท่านั้นที่มักจะมารับลู่หานกลับบ้านทุกครั้งที่เธอป่วย.. ไม่ใช่พี่คนนี้
            เรารบกวนพี่หรือเปล่า พี่ต้องทำงานไม่ใช่เหรอคะระหว่างทางที่กำลังเดินออกมาที่รถ ลู่หานก็เงยหน้าขึ้นไปถามพี่ชายตัวสูงของเธอที่กำลังเดินนำหน้าเธออยู่เพียงแค่ก้าวเดียว โดยที่มือก็ยังจับกันเอาไว้
            ดูน่ารัก เหมือนพี่ชายกับน้องสาวตัวเล็กๆ ซึ่งหารู้ไม่ว่าเราสองคนไม่ได้เป็นแค่พี่น้องกันมานานแล้ว
            ระหว่างงานกับเธอ พี่เลือกเธออยู่แล้วเซฮุนไม่ได้สนใจกับความหมายในประโยคที่ตัวเองเพิ่งพูดออกไปสักเท่าไหร่นัก เพียงแค่ได้รู้ข่าวว่าน้องป่วย เซฮุนก็ไม่รอช้ารีบวางงานทุกอย่างลงแล้วขับรถมารับอีกคนทันทีด้วยความเป็นห่วง
            ขอแค่บอก ต่อให้ยุ่งแค่ไหนเขาก็จะมา
            เรารบกวนพี่แย่เลย เอาไปส่งที่โรงพยาบาลแล้วเดี๋ยวเรากลับเองก็ได้ลู่หานเกรงใจเซฮุนอย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากให้พี่ต้องมาเสียเวลากับเด็กอ่อนแอแบบเราเลย
            เซฮุนไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาทำเพียงแค่เดินไปเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับเพื่อที่จะดันร่างน้องลู่หานในชุดนักเรียนมอปลายเข้าไปนั่งในรถซะ หลังจากนั้นเขาจึงเดินอ้อมมานั่งฝั่งคนขับแล้วรีบออกรถไปในทันที เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเพื่อพาน้องไปหาหมอต่อ
            เมื่อกี้บอกครูว่าพี่เป็นอะไรกับเรานะ?” เมื่อ Maserati ถูกขับไปบนท้องถนนได้สักพักเซฮุนก็เริ่มเปิดประเด็นถามสิ่งที่ตนเองกำลังค้างคาใจอยู่ขึ้นมา
            พะ...พี่ชายตอบเสียงอ้อมแอ้มกลับไป พร้อมกับปลายคางที่กดลงมาจนแทบจะชิดกับหน้าอกของตนเองอยู่แล้ว
            จะต้องให้พี่ย้ำอีกกี่ครั้ง ว่าพี่ไม่ได้เป็นแค่พี่ชายเราน่ะ ลู่หาน
            เซฮุนทั้งจริงจังและซีเรียสกับเรื่องนี้มาก มือข้างที่ว่างอยู่ยื่นออกไปวางไว้บนตักของลู่หาน ที่ตอนนี้ท่อนล่างของเธอเป็นเพียงกระโปรงลายสก็อตตัวสั้นที่สวมใส่อยู่ ความยาวของมันสามารถปกปิดเนื้อหนังมังสาของร่างบางได้เพียงแค่ครึ่งต้นขาเพียงเท่านั้น
            เอ่อ...
            เดี๋ยวแวะหาหมอก่อนแล้วกัน ไข้ขึ้นสูงขนาดนี้แล้วก็ไม่โทรมาบอกพี่เลยเซฮุนเพียงแค่ลูบที่ต้นขาของน้องเท่านี้ก็รับรู้ได้แล้วว่าตอนนี้ลู่หานไข้ขึ้นสูงมากแค่ไหน ก็ได้แต่หวังไว้อย่างเดียวว่าน้องคงไม่ต้องถึงขั้นนอนโรงพยาบาลหรอกนะ
            ค...ค่ะยอมจำนนแต่โดยดี เพราะตอนนี้ร่างกายตัวเองก็เริ่มโรยราลงทุกที อยากจะเถียงว่าไม่ต้องก็ได้ เพราะเธอกลัวการหาหมอ กลัวทุกอย่าง แต่ถ้าฝืนตัวเองมากไปกว่านี้ อีกไม่นานก็คงจะตายเพราะพิษไข้เนี่ยแหละ

            เซฮุนขับรถมุ่งหน้ามายังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จัดการพาลู่หานน้องสาวของพี่สะใภ้มาหาหมอในที่สุด โชคดีที่พอคุณหมอตรวจเสร็จแล้ว ลู่หานไม่โดนนอนโรงพยาบาลถือว่าค่อยยังชั่วหน่อยเพราะอีกใจหนึ่งลึกๆเซฮุนก็พอรู้อยู่ว่าช่วงนี้พี่อี้ชิงกับพี่คริสแกไม่อยู่บ้าน ลู่หานก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว
            แล้วช่วงเวลานี้นี่แหละที่เซฮุนจะหาโอกาสใช้เวลาอยู่กับน้องสองต่อสองบ้าง ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้นตอนไปทริปหน้าหนาวกันเลยก็ว่าได้
            ไง โดดหมอฉีดก้นเลยหลังจากที่รับยาเสร็จเรียบร้อย เซฮุนก็เดินประคองร่างของน้องกลับมาที่รถ ลู่หานยังอยู่ในชุดนักเรียนมอปลายใครมองมาก็เข้าใจว่าเซฮุนเป็นพี่ชายทั้งนั้น
            ไม่เว้นแม้แต่หมอ
            พี่เลิกแซวเราสักทีได้ไหมอ่า...ลู่หานมุ่ยหน้า พร้อมกับแหวกถุงยาที่อยู่บนตักของตัวเองออกดู ส่วนเซฮุนที่เมื่อนั่งประจำที่คนขับเรียบร้อยแล้ว สถานที่ต่อไปที่จะพาไปเขายังไม่ได้บอกลู่หานเลยว่าจะพาไปที่ไหน
            ก็มันจริงนี่ ปล่อยให้ป่วยหนักๆ ถ้าหมอไม่ฉีดยาแล้วจะหายไหม
            พี่คะ ค่ายาเดี๋ยวเราไปขอพี่อี้มาคืนให้นะ—
            ไม่ต้องหรอก เราก็เหมือนน้องสาวพี่คนนึงตอนนี้พี่เป็นผู้ปกครองเราแล้ว ค่ายาแค่นั้นน่ะช่างมันเถอะเซฮุนไม่ได้จะทำตัวป๋านักหรอก แต่แค่ค่ายาที่เสียไป กับการที่เขาได้ลู่หานมาดูแลนี่ก็ถือว่าคุ้มอยู่เหมือนกันนะ เผลอๆ อีกไม่นานเขาอาจจะเสียค่าประกันตัวเองออกมาจากคุกก็เพราะลู่หาน ...มูลค่าเงินประกันยังมากกว่าค่ายานี่เลย
            อันนี้ก็แค่คิดนะ...
            พี่ฮุนไปส่งที่บ้าน—
            พี่อี้ชิงกับพี่คริสไม่อยู่ คืนนี้ไปนอนห้องพี่ก่อนไหม
            เอ่อ...ใบหน้าที่ตอนแรกมันร้อนเพราะอาการป่วยของตัวเองอยู่ดีๆ ทันทีที่พี่ชายที่กำลังขับรถอยู่เอ่ยชวนให้ไปนอนที่ห้องเท่านั้นแหละ เหมือนตัวลู่หานมันกำลังระเบิดยังไงก็ไม่รู้ เรื่องเมื่อคืนนั้นฉายเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง ยอมรับเลยว่าลึกๆเธอก็แอบคิดว่าพี่เซฮุนจะมีความนัยอะไรหรือเปล่าที่ชวนไปนอนห้องในคืนนี้
            ไม่ได้เป็นวันนั้นของเดือนใช่ไหมล่ะ
            พี่ฮุน!ลู่หานถึงกับตกใจรีบยกมือขึ้นฟาดต้นแขนพี่เซฮุนที่กำลังขับรถอยู่อย่างลืมตัว ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ความหมายนั้น ลู่หานรู้ดี แถมยังหัวไวกับเรื่องแบบนี้มากๆด้วย
            ฮ่ะๆ ล้อเล่น ก็ไปนอนเล่นห้องพี่ก่อนเวลาป่วยพี่จะได้ดูแล ดึกๆไข้ขึ้นพี่ก็จะเช็ดตัวให้
            เชื่อพี่ได้ไหมอะทำหน้างอนๆ ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นระหว่างทางที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ห้องของเซฮุน ถึงลู่หานจะไม่ตกลงแต่เซฮุนก็คงจะพาไปนอนที่ห้องด้วยอยู่แล้ว
            ฮ่ะๆคนที่ฟังก็เอาแต่หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี มือขนาดใหญ่ยกขึ้นไปวางบนกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนของหญิงสาวก่อนที่ผมที่เคยเรียบกลับยุ่งเหยิงเพราะแรงขยี้จากมือพี่เซฮุนที่แกล้งน้องอยู่ตลอดเวลา
            ไม่รู้ทำไม เพียงแค่การกระทำเล็กๆน้อยๆแบบนี้กลับทำให้เธอหวั่นไหวได้ง่ายๆ หรือเพราะว่าเธอตกหลุมรักพี่เขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปแล้วสินะ...
            จากโรงพยาบาลก่อนกลับมาถึงห้องเซฮุนก็พาลู่หานแวะทานข้าวเย็นก่อนเข้าห้องเพราะตั้งใจว่าคืนนี้จะไม่ออกไปไหนแล้ว อยากจะอยู่กับน้องทั้งคืนเพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เซฮุนพาลู่หานมาค้างที่ห้อง ...ห้องผู้ชายที่อยู่เพียงลำพังคนเดียว พอได้มีผู้หญิงมาอยู่ด้วยแบบนี้ มันก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
            ถึงแล้ว...
            บนคอนโดชั้นที่ 32 ใจกลางเมืองที่เป็นเหมือนบ้านของเซฮุน ในตอนนี้เจ้าของห้องกำลังหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องของเขา โดยที่มีร่างเล็กยืนอยู่ข้างๆท่าทางที่มองดู ดูก็รู้ว่าลู่หานรู้สึกไม่ชินสักเท่าไหร่ สองมือกำถุงยาแน่นหันซ้ายแลขวาก็ไม่เจอใครเลย เพราะชั้นนึงมันมีห้องเพียงไม่กี่ห้อง ก็เลยทำให้ที่นี่ดูเงียบเป็นธรรมดา
            ยังเก็บคีย์การ์ดที่พี่ให้เราไว้ตอนนั้นเอาไว้หรือเปล่า
            ค...คะ? อ่า แป๊บนะเหมือนลู่หานจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเธอเองยังเก็บคีย์การ์ดใบนั้นเอาไว้ในกระเป๋าสตางค์ของเธอเป็นอย่างดี มือน้อยๆล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอเพื่อที่จะหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา ก่อนที่จะล้วงเอาคีย์การ์ดใบดังกล่าวออกมาแล้วยื่นมันไปให้พี่เซฮุน
            เพราะคิดว่าเซฮุนคงจะลืมหรือเปล่า เลยมาขอคีย์การ์ดที่ตัวเองแบบนี้
            เปิดห้องสิ
            พี่ไม่เปิดเองเหรอคะ?” เอียงคอมองด้วยท่าทางที่งุนงง
            ก็ลองเปิดดู จะได้รู้ว่าคีย์การ์ดที่พี่ให้ไปน่ะ...ของจริงพูดจบรอยยิ้มที่มุมปากก็ปรากฏขึ้นมาอย่างคนเจ้าเล่ห์ แต่เขาก็ไม่ใช่พวกเพลย์บอยที่ชอบเอามุขนี้ไปเล่นกับผู้หญิงคนไหน ลู่หานนี่แหละคือคนแรกที่เซฮุนเล่นอะไรแบบนี้ด้วย
            เปิดได้จริงๆด้วยค่ะ...ลู่หานค่อยๆผลักประตูห้องเข้าไป หญิงสาวถอดรองเท้าเอาไว้ตรงชั้นวางข้างประตู ส่วนเซฮุนก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่เดินเอาขนมที่ซื้อติดมือกลับมาด้วยไปใส่ไว้ในตู้เย็น ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีรินน้ำให้น้องดื่ม แล้วบอกให้ลู่หานยืนรออยู่ตรงกลางห้องนั่นก่อน
           
            แต่ดูเหมือนว่าเพราะฤทธิ์ยาที่เพิ่งทานเข้าไปบวกกับว่าวันนี้ลู่หานเพลียจนแทบจะไม่มีแรงเดินอยู่แล้ว ร่างเล็กจึงพาตัวเองมานั่งตรงโซฟากลางห้องโถงโล่งๆที่มีแค่โซฟายาว ตรงหน้าเป็นทีวีจอยักษ์ ข้างกันจะเป็นบาร์เครื่องดื่มเล็กๆไม่ใหญ่มาก
            พอลองมองดูดีๆคอนโดเซฮุนถือว่ากว้างมาก กว้างชนิดที่ว่าเมื่อเดินเข้ามาแล้วภายในห้องยังมีบันไดเชื่อมขึ้นไปด้านบนได้อีก แล้วถ้าให้เธอเดาน่าจะเป็นห้องนอนที่อยู่ชั้นบน ส่วนชั้นล่างก็จะเป็นแค่ห้องครัว ห้องแต่งตัว และก็ห้องนั่งเล่นแค่นั้น...

            เซฮุนหายเข้าไปในห้องนอนอยู่นานสองนาน จากตอนแรกที่มาถึงห้องท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว เพราะไหนจะไปหาหมอ ไหนจะพาไปกินข้าวซื้อของใช้ส่วนตัวบางอย่างอีก ... เซฮุนเดินออกมาจากห้องนอนที่อยู่ชั้นบนที่มีบันไดเชื่อมขึ้นไป ในมือของเขามีเสื้อยืดสีเทาตัวใหม่ที่ยังไม่เคยได้ใส่เลยสักครั้งและคิดว่าจะเอาออกมาให้ลู่หานใส่นอนคืนนี้ด้วย

            อ่างน้ำขนาดพอประมาณกับผ้าขนหนูผืนเล็กถูกบิดจนหมาดด้วยแรงมือของร่างสูงที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าโซฟาที่มีร่างของลู่หานนอนหลับไม่ได้สติอยู่ เมื่อครู่ลองแตะที่ตัวดูก็พบว่าอุณหภูมิร่างกายของลู่หานลดลงจากเมื่อกลางวันไปแค่นิดเดียวเอง นี่ก็ค่ำแล้วเห็นทีคงต้องเช็ดตัวให้น้องก่อนจะพาเข้านอนซะแล้ว
           
            ผ้าที่เปียกชื้นถูกสัมผัสลงไปบนท่อนแขนของลู่หาน เซฮุนจัดการเช็ดตัวให้น้องตั้งแต่ต้นแขนที่โผล่พ้นเสื้อนักเรียนสีขาวเรื่อยลงมาจนถึงเรียวขาขาวขาวจนเซฮุนต้องข่มใจเอาไว้ ถอนลมหายใจออกมาเพื่อระบายความอึดอัดแบบนับครั้งไม่ถ้วน
            น้องเขาอุตส่าห์ไว้ใจ...พึมพำด่าตัวเองไปเรื่อย แต่ปลายนิ้วกลับเริ่มริดกระดุมเสื้อนักเรียนของเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะออกทีละเม็ดๆ ท่าทางที่นิ่งเพราะพยายามข่มจิตข่มใจตัวเองเอาไว้ ไม่ให้คิดมากเกินกว่าคำว่าน้อง
            พยายามเตือนตัวเองว่านี่คือน้องสาวพี่สะใภ้ อย่าให้เกิดเรื่องแบบนั้นเป็นครั้งที่สองเลย

            กระโปรงนักเรียนที่มีความยาวไม่ถึงหัวเข่าถูกปลดออกมาจากข้อเท้าเป็นสิ่งสุดท้ายหลังจากที่ร่างสูงสงบสติอารมณ์ตัวเองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลู่หานมาสักพักแล้ว สภาพของลู่หานตอนนี้ในสายตาของเซฮุนคือเหมือนตุ๊กตายางที่มีชีวิต ไม่ว่าจะมองไปที่ส่วนไหนก็งดงามไปหมด
            มือขนาดใหญ่ลูบไปตามเนื้อต้นขาเนียนขาวไปมาราวกับพวกโรคจิต สายตาของเซฮุนตอนนี้เก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่เลย ยิ่งได้มองส่วนบนที่เป็นหน้าอกขาวๆอวบๆของน้อง ยิ่งทำให้เซฮุนแทบบ้า อยากจะตบหน้าตัวเองสักสองสามทีแล้วบอกว่าน้องกำลังป่วยอยู่ แกจะทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ
            สุดท้ายแล้วก็ต้องล้มเลิกความคิดชั่วร้ายพวกนั้นซะ เซฮุนจัดแจงสวมใส่เสื้อยืดให้ลู่หานจนเรียบร้อย ด้วยความยาวของเสื้อที่พ้นสะโพกมนลงมาเพียงคืบเดียวยิ่งทำให้น้องดูเซ็กซี่มากขึ้นไปอีก แต่หารู้ไม่ว่าเซฮุนนั้นตั้งใจเลือกเสื้อตัวนี้ให้ลู่หานอยู่แล้ว
            อือ...เพียงไม่นานร่างบอบบางที่นอนหลับไปหลายชั่วโมงก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น เมื่อลืมตาขึ้นกลับต้องแปลกใจว่าทำไมตัวเองถึงได้มาอยู่ในชุดแบบนี้ไปได้ เมื่อมองไปที่ปลายเท้าก็เห็นว่าพี่เซฮุนกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง เปรยสายตามามองทางลู่หานเพียงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าน้องตื่นแล้ว ท่อนแขนขนาดใหญ่จึงอ้าออกกว้างเหมือนจะเชื้อเชิญให้อีกคนเข้ามาใกล้ๆ
            ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ยาหรือว่าเพราะพิษไข้กันแน่ที่ทำให้ลู่หานว่านอนสอนง่ายค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งแล้วคลานเข้าไปหาพี่เซฮุน สอดมือโอบกอดเอวสอบของชายหนุ่มอันเป็นที่รักของเธอเอาไว้ แนบแก้มเนียนลงไปบนหน้าอกที่นูนชัดขึ้นมาเพราะกล้ามเนื้อที่แข็งแร็งของคนพี่
            ท่าทางที่ออดอ้อนของลู่หานยิ่งทำให้เซฮุนอยากจะวางสายไปเสียตั้งแต่ตอนนี้แล้วจัดการน้องซะเดี๋ยวนี้ แต่เขาก็ทำไม่ได้ เพราะว่าคนในสายที่กำลังคุยด้วยในตอนนี้นั่นก็คือพี่คริส พี่ชายแท้ๆของเขานี่เอง
            [ดูแลน้องเขาดีๆ นี่พออี้ชิงรู้ว่าแกไปรับน้องลู่หานที่โรงเรียนพี่เขาบอกว่าค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย ถ้าเป็นคนอื่นนี่อี้ชิงเขาไม่ปล่อยน้องสาวของเขาให้ไปด้วยหรอก
            เหรอ ฮ่ะๆเซฮุนถึงกับหลุดขำออกมา เมื่อได้ยินประโยคที่แสดงออกถึงความไว้เนื้อเชื่อใจของพี่ๆทั้งสองคน ที่หารู้ไม่ว่า….คนที่ไว้ใจ ร้ายที่สุด
            [แล้วนี่จะนอนยัง ฉันจะได้วาง]
            ยังเฮีย ยังไม่ง่วงอะ คุยต่อเลยก็ได้ น้องเขาหลับอยู่เลยไม่รู้จะคุยกับใคร”  
            แกล้งโกหกไปคำโต ในขณะที่นิ้วชี้ของเซฮุนข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์อยู่กลับชี้ไปที่ส่วนนั้นของเขาที่มันขยายตัวใหญ่อยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ที่สวมใส่ จนลู่หานที่พยายามเงี่ยหูฟังคนพี่คุยโทรศัพท์มานานจนรู้ว่าเป็นพี่ชายของพี่เซฮุนก็เลยเงียบเสียงเอาไว้ กลัวว่าพี่เขาจะรู้ว่าตอนนี้ลู่หานตื่นนอนแล้ว
            เออ ผู้หญิงคนนั้นที่เฮียพามาให้รู้จักอะ เขาชื่ออะไรนะอยู่ๆเซฮุนก็ลั่นประโยคบางอย่างถามพี่ชายตัวเองออกไป เหมือนต้องการที่จะยั่วโมโหลู่หานที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าเมื่อครู่ที่เซฮุนชี้นิ้วไปที่ตรงนั้นน่ะ มันหมายถึงอะไร จนเซฮุนต้องดึงมือถือในมือออกห่างแล้วกระซิบข้างใบหูน้องว่าให้ทำอะไรกันแน่
            เล่นกับมันหน่อยสิ...
            ผู้หญิงอะไรเหรอคะ?” ไม่ได้หึงหรอกแต่สีหน้าก็ออกอาการว่าหึงอยู่หน่อยๆตอนที่พี่เซฮุนกำลังพูดถึงใครสักคนอยู่ คนที่ลู่หานเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใคร
            หึง?” เลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับเอ่ยถามคนน้องออกไป กลั้นยิ้มเอาไว้สุดฤทธิ์เมื่อรับรู้ว่าลู่หานเองก็น่าจะหึงอยู่พอตัว ไม่อย่างนั้นเจ้าตัวคงไม่ขวนขวายหากระดุมกางเกงของเซฮุนแล้วรีบปลดออกโดยไวขนาดนี้ เล่นเอาเซฮุนแทบขยับตัวไม่ทัน รีบยกสะโพกขึ้นสูงตอนที่ลู่หานกำลังรูดกางเกงยีนส์ของเขาออกจากท่อนขา ตามมาด้วยกางเกงชั้นในชายสีดำที่ถูกปลดออกลงมาคาเอาไว้ที่หน้าตักของเซฮุนเอง
            [เซฮุน ยังอยู่ปะ?] เมื่อเห็นว่าน้องชายเงียบเสียงไปนาน คริสก็เลยรีบส่งเสียงถามดูเพราะถ้าไม่อยู่จะได้วางสายเลย
            อยู่เฮีย แล้วที่นั่นเป็นไงบ้างอะ อากาศดีไหม? อย่า—ไม่ทันตั้งตัว ทันทีที่ลู่หานถลกชายเสื้อยืดตัวยาวของตัวเองขึ้นมากองเอาไว้ใต้ราวนม ก่อนที่จะตวัดขาขึ้นคร่อมตักของคนพี่ เตรียมพร้อมที่จะขึ้นให้โดยที่ไม่ต้องรอคำสั่งของเซฮุนเลยสักนิด
            เล่นเอาร่างสูงแทบตกใจ รีบจับหมับเข้าที่เอวบางไว้ก่อน เพราะเขาแค่อยากจะให้น้องออรัลให้ ไม่ใช่การขึ้นให้แบบนี้
            [เซฮุน เป็นไรเปล่า?]
            ปะ...เปล่า เมื่อกี้เฮียว่าไงนะเหมือนสติจะหลุดอยู่แล้ว ตอนที่น้องพยายามที่จะจับท่อนกายที่ตั้งตรงของเซฮุนขึ้นมาจ่อรอที่จะเข้าไปสำรวจช่องทางนั้น แต่มันกลับยังไม่ถึงเวลา เขาพยายามรั้งไม่ให้น้องเล่นซนแบบนี้อีก มันไม่ดีแน่เขายังไม่ทันได้ป้องกันเลยลู่หานจะจัดการเองไปก่อนไม่ได้นะ
            [อากาศก็เย็นๆดีอะ เรื่อยๆว่ะ ไว้รอบหน้ามาด้วยกันปะ]
            ขอแบบตอนทริปหน้าหนาวได้ปะ ถ้าได้ผมไปพูดกับปลายสาย แต่สายตาอันร้อนแรงของเซฮุนกลับเอาแต่จ้องไปที่หน้าของลู่หานเหมือนต้องการจะบอกว่าประโยคที่พูดไปน่ะ เขาหมายถึงอยากได้แบบตอนไปทริปหน้าหนาวที่ผ่านมาอีก
            ในเต็นท์นั่นน่ะ...ขอแบบนั้นเลย
            [ได้ดิ เออเอาน้องลู่หานเขามาด้วย เขาดูมีความสุขดีนะ]
            น้องคงชอบอะ...ชอบมากเลยด้วยแหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่ติดใจจนมาถึงครั้งนี้ยอมเริ่มต้นก่อนแบบนี้หรอก
          รอแป๊บเซฮุนขยับปากพูดกับลู่หานแบบไม่มีเสียงเพื่อบอกให้น้องอดใจรอก่อน ที่จะเริ่มต้นคืนนี้ไปด้วยกัน ร่างสูงเดินถือโทรศัพท์คุยกับพี่ชายตัวเองพร้อมกับเดินไปที่ลิ้นชักใต้ทีวี ดึงลิ้นชักชั้นบนสุดออกมาแล้วคว้าเอาสิ่งของสำคัญหยิบติดมือขึ้นมา ก่อนที่จะเดินกลับมาที่โซฟาที่มีน้องลู่หานนั่งรออยู่อีกครั้ง
            เออ ว่าจะถามเฮียอยู่ ... เฮียน้องลู่หานมีคนมาจีบเยอะปะ พี่อี้เขาได้บอกเฮียบ้างปะ
            ไม่ว่าเปล่ากล่องถุงยางอนามัยไซส์เซฮุนก็ถูกโยนไปที่ตักของร่างเล็กให้จัดการกับมันซะ ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งพิงกับพนักโซฟาอีกครั้ง ใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่สาวมือไปกับความยิ่งใหญ่ของตัวเองไปมาระหว่างที่กำลังรอน้องแกะกล่องของสำคัญที่เขาเพิ่งไปหยิบออกมาให้
            [เยอะนะ ไมวะ สนใจเหรอ]
            ก็อยากรู้ไง ถ้าไม่มีจะได้จีบตรงคำว่าจีบมันตรงกับช่วงที่ถุงยางในมือของลู่หานรูดลงไปสวมกับท่อนกายของเซฮุนพอดีและจังหวะสุดท้ายสายตาของร่างเล็กก็ตวัดขึ้นมามองหน้าเซฮุนพร้อมกับขยับปากแกล้งคนพี่ว่า
          มีคนจีบเยอะมาก
            [โห แกเตรียมตัวตายได้เลยครับไอ้น้องชาย พี่อี้ชิงนี่เขาหวงน้องสาวเขาอย่างกับอะไรดี เขาไม่ชอบให้น้องเขามีแฟนน่ะ กลัวว่าจะมีแล้วจะดูแลลู่หานไม่ได้]
            ผมก็ดูแลน้องได้ดีออก ดีมากๆเลยด้วย...
            [เดี๋ยวเถอะ อย่ายุ่งน่ะดีแล้วเปลี่ยนบ้างเถอะจะเป็นลูกเขยบ้านนี้กันหมดเลยเหรอไง]
            ไม่ได้เหรอ เออเฮีย แค่นี้ก่อนนะ น้องตื่นแล้วอะ แค่นี้นะ...ครับๆวินาทีต่อมาหลังจากที่เซฮุนกดตัดสายจากพี่คริสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร่างสูงก็ไม่รอช้า รีบวางโทรศัพท์ลงข้างกายก่อนที่ร่างกายสูงใหญ่จะโถมเข้าใส่ลู่หานที่นั่งคร่อมอยู่บนตักของเขา เสียงสูดดมตามเรือนร่างขาวเนียนยิ่งทำให้ร่างบางอ่อนระทวย
            ตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรแบบนี้หรอก แค่อยากจะอ้อนเซฮุนเฉยๆ แต่พอได้ยินว่าผู้หญิงอะไรสักอย่างลู่หานก็อดไม่ได้ที่จะออกอาการหึง และยอมรับว่าเธอไม่อยากให้ให้พี่เซฮุนกับใคร ... จากความรักตอนนี้กลายเป็นความหึงหวงไปแล้ว
            อื้อ พี่ฮุน ใจเย็นๆนะคะ
            อาการตะกละตะกลามราวกับอดอยากเรื่องแบบนี้มานานแรมเดือนทำให้เซฮุนขาดสติเอาแต่กอดรัดร่างกายของน้อง พร้อมกับเค้นมือไปตามบั้นท้ายอวบอิ่มแบบไม่กลัวว่าน้องจะช้ำเลยแม้แต่น้อย ปลายจมูกโด่งฝังอยู่ตรงร่องอกของเด็กสาวมอปลายที่ตัวเองเพิ่งจะอาสารับปากว่าจะดูแลให้ แต่ดูแลที่ไหนอันนี้ก็ให้ร่างกายเล่าเรื่องก็แล้วกันนะ
            อืออ ค่อยๆนะคะ
            ตัวยังร้อนอยู่เลย ...ไหวเหรอ
            ผู้หญิงที่พูดถึงนี่ใครเหรอคะ?” ย้อนถามกลับหน้าตาเฉย
            แล้วผู้ชายจีบเยอะนักเหรอ เราอะ หื้มมมคราวนี้เซฮุนงับเข้าที่เนินอกตรงหน้าจนขึ้นเป็นรอยแดงช้ำเลือดหน่อยๆ จนลู่หานถึงกับร้องออกมาเพราะความเจ็บที่พี่เซฮุนแกล้งกลับมาแบบนี้
            พี่ฮุน!
            ไง คนจีบเยอะเหรอ ลืมชื่อพี่ไปแล้วเหรอไง หรือต้องให้พี่ทวนเรื่องที่เต็นท์คืนนั้นอีก—
            ถ้าไม่อยากทวนความจำ พี่คิดว่าเราจะยอมตามพี่มานอนที่ห้องด้วยเหรอคะ?”  ยิ่งกว่าการหว่านเสน่ห์ คือลีลาที่แสนยั่วยวนของน้อง ราวกับภาพลักษณ์ของเด็กมัธยมปลายวัยสิบหกปีคนนั้นได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว
            ตอนนี้จะมีเพียงแค่ลู่หานของพี่เซฮุนเพียงเท่านั้น
            หึ ลืมไปแล้ว ไหนเริ่มให้พี่ดูได้ไหมคะสิ้นเสียงเซฮุนก็จัดการดึงเสื้อยืดที่ตัวเองสวมใส่อยู่ออกจากศีรษะ คราวนี้เขาค่อยๆเอนกายพิงโซฟาดีๆ เชิดหน้าขึ้นพร้อมกับรั้งร่างกายให้ลู่หานเข้ามามอบสัมผัสให้กับเขา
            ร่างของเจ้าแมวน้อยบนตักค่อยๆออกลีลาฝังใบหน้าลงไปที่ลำคอของหนาของคนพี่แล้วจัดการจูบเม้มไปเรื่อยๆแม้แต่สันกรามที่ยกที่นูนขึ้นมาลู่หานก็ค่อยๆไล่จูบไปเรื่อยๆ จนกระทั่งขึ้นมาถึงใบหน้าคมคายของเซฮุน จนทั้งสองไม่รอช้าโถมจูบใส่กันทันที
            อือ อื้ออ
            ทำไมยั่วพี่นักล่ะ อย่างนี้พี่จะทำยังไงดีล่ะ หื้ออ ไม่น่ารักเลยถ้าพี่อี้ชิงรู้ขึ้นมาจะทำยังไง...เหมือนต้องการจะแซวให้เด็กน้อยหวาดกลัว แต่ไม่เลย วินาทีต่อมาที่เซฮุนผลักกายของน้องให้นอนราบลงไปตามความยาวของโซฟาก่อนจะคลานขึ้นคร่อมร่างผอมบางเอาไว้
            ประโยคเมื่อครู่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด
            เราจะบอกว่าพี่เริ่มก่อน...
            เริ่มก่อนแล้วยังไง ก็ผิดที่เธอเกิดมาน่ารักเอง อื้อ!
            อ๊ะ! พี่ฮุน อ๊ะ...อ๊า...จังหวะสุดท้ายเหมือนไม่ทันตั้งตัวเซฮุนก็สอดท่อนกายของตัวเองเข้ามาในร่างกายของลู่หานจนเกือบสุดเพียงครั้งเดียว
            และเพราะร่างกายของลู่หานกำลังป่วยอยู่ก็เลยยิ่งทำให้ผนังเนื้อที่อ่อนนุ่มภายในยิ่งร้อนรุ่มราวกับมีน้ำร้อนหล่อเลี้ยงแกนกายของเซฮุนเอาไว้ ซึ่งก็ยิ่งทำให้เซฮุนได้ใจขยับกายเข้าออกทันทีโดยที่ไม่สนใจทั้งนั้นว่าน้องจะเจ็บมากหรือไม่ รู้แค่ว่าตอนนี้ร่างกายของเขามันหยุดขยับไม่ได้แล้ว
            ทั้งเสียว ทั้งเร่าร้อน...ร่างกายของเด็กอายุ 16 มันเด็ดอย่างนี้นี่เอง
            อ๊า พะ...พี่ เสียวไปหมดแล้ว อื้อ—
            ร้อนอะ ซี๊ด...ได้แต่ซี๊ดปากเพื่อระบายความเสียวซ่านตรงส่วนร่าง มือข้างที่ว่างก็เฟ้นฟอดไปตามทรวงอกของน้องสาวที่ไม่ได้เป็นแค่น้องสาวของเขาอยู่ในตอนนี้ เสียงร้องครางระงมของลู่หานดังไปทั่วทั้งห้อง ยิ่งปลายของส่วนนั้นกระแทกเข้ามาลึกมากเท่าไหร่ลู่หานก็ยิ่งร้องดังมากขึ้นเท่านั้น
            เซฮุนตัดสินใจยกขาข้างหนึ่งของลู่หานขึ้นพาดบ่าสูงเอาไว้แล้วกระแทกกายเข้าใส่เน้นๆจนเสียงเนื้อที่กระทบกันดังขึ้น ยิ่งทำให้บรรยากาศในค่ำคืนนี้นั้นดีกว่าทุกคืนที่ผ่านมา
            ยามที่ได้มองเห็นสีหน้าของคนใต้ร่างที่เหมือนกำลังยั่วไปในตัว บางครั้งก็ร้องครางออกมายิ่งทำให้เซฮุนแทบบ้า เอาแต่กระแทกกายเข้าใส่โดยที่ไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าน้องกำลังป่วยอยู่ รู้ตัวอีกที เขาก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว อยากจะเสร็จสมอารมณ์หมายนี้เร็วๆแล้วเริ่มต้นยกต่อไปกับน้องทันที
            อ่า...ลู่หาน อื้มส่งเสียงครางระบายความอัดอั้นในใจออกมา พร้อมกับส่วนนั้นที่เร่งขยับเข้าออกเร็วขึ้นกว่าเดิม จนในที่สุดเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าทนไม่ไหวแล้ว แกนกายที่มีถุงยางอนามัยห่อหุ้มอยู่ก็รีบดึงออกมาจากช่องทางขึ้นสีนั้น แล้วดึงรั้งปลายถุงออก ก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเลอะต้นขาและเบาะโซฟาของตัวเองอย่างห้ามไม่ทัน
           
            เสียงหอบหายใจแรงๆของลู่หานเช่นเดียวกันกับเซฮุนที่ยังคงคร่อมร่างของลู่หานเอาไว้อยู่ จ้องมองเรือนร่างที่มีรอยแดงช้ำเป็นจุดๆก็เริ่มใจหาย แต่พอนึกขึ้นได้ว่ารอยพวกนั้นมันมาจากฝีมือตัวเองก็เลยไม่คิดอะไรมาก ตัวเองทำเองจะกลัวอะไร
            เข้าไปนอนกัน...เพราะเห็นว่าป่วยก็เลยไม่อยากวอแวกับน้องมาก ถึงแม้ว่าใจเซฮุนจะอยากได้มากกว่านี้เพราะแค่รอบเดียวพลังงานของเซฮุนเพิ่งหายไปได้นิดเดียวเอง
            แต่เหมือนเขาจะลืมไปว่าน้องไม่ได้แข็งแรงเหมือนอย่างเขา จะมาเอาแต่ใจกับคนป่วยแบบนี้ก็คงจะไม่ได้
            พี่ฮุน—
            หือ?” ยังไม่ทันที่ท่อนแขนของเซฮุนจะช้อนร่างของลู่หานขึ้นแนบอก เพื่อที่จะพาเข้าไปนอนในห้องนอนดีๆ จู่ๆเสียงเรียกของน้องกลับทำให้เซฮุนหยุดชะงักแล้วจ้องหน้ามองลงมาที่ร่างบอบบางที่เหมือนจะหมดแรงเต็มทนแล้ว
            อีกรอบได้ไหมคะ...หนูขอ
            หือ ไหวเหรอ?” นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย เมื่อได้ยินคำว่าขอหลุดออกมาจากปากของลู่หาน วินาทีต่อมา ร่างของลู่หานถูกวางลงบนโซฟาอีกครั้ง คราวนี้ฝ่ายน้องเริ่มเอง ทั้งยังจัดแจงสวมถุงยางให้เซฮุนใหม่ เริ่มใหม่หมด เขาเองก็ไม่รู้ว่าน้องเอาแรงมาจากไหนนัก แต่เซฮุนก็ไม่ขัดขืนอะไรเพราะถือว่าได้กำไรไปสองยกทั้งๆที่น้องยังป่วย
            ก็คุ้มแล้วสำหรับค่ายาในวันนี้...

            .
            .
            .
            .
            เช้าวันจันทร์ที่แสนรถติด ในเวลาเจ็ดโมงเช้าหน้าโรงเรียนหญิงล้วนที่ที่ลู่หานกำลังเรียนอยู่ ตั้งแต่วันศุกร์มาจนถึงวันนี้ เธออาศัยอยู่กับพี่ชายคนสนิทมาโดยตลอด ไปไหนมาไหนด้วยกันทำตัวราวกับว่าเป็นแฟนกันก็ไม่เชิง พี่เซฮุนเองก็ดูแลดีทุกอย่าง แม้กระทั่งว่าถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่ออาบน้ำแล้วขับรถมาส่งลู่หานที่โรงเรียน พี่ฮุนยังยอมเลย
            ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะความขยันหรือเพราะว่ากำลังหลงเด็กน้อยในวัย 16 ปีกันแน่
            ตั้งใจเรียนนะ อย่าลืมกินยาด้วยล่ะ เข้าใจไหม
            ค่ะพี่ฮุนพยักหน้ารับคำอย่างดี ก่อนที่เด็กสาวในชุดนักเรียนมอปลายจะเลื่อนใบหน้าเข้าไปหอมแก้มผู้ปกครองในนามของเธอที่ใจดีขับรถมาส่งที่โรงเรียนในวันนี้
            ไปได้แล้ว วันนี้พี่อี้ชิงกลับมาบ้านแล้วนี่ แต่ถ้าเย็นนี้ไม่มีใครมารับก็โทรมาหาพี่นะเดี๋ยวออกมารับเองลู่หานเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้ารัวๆ เป็นอันว่ารับรู้ถึงความใส่ใจของพี่แล้ว
            ประตูรถมาเซอราติสีขาวถูกเปิดออก ก่อนที่จะร่างของลู่หานจะก้าวเดินลงไปพร้อมกับประตูรถที่ปิดลง เซฮุนมองตามแผ่นหลังแคบๆของน้องสาวและเมียของเขาที่กำลังจะเดินเข้าโรงเรียนอยู่รอมร่อ แต่ทว่าจังหวะที่รถคันขาวของเขากำลังจะหักเลี้ยวเพื่อจะขับออกไป ในตอนนั้นเองเสียงเคาะกระจกรถฝั่งข้างคนขับก็ดังขึ้นมา
            เป็นเหตุให้เซฮุนต้องหันกลับไปมอง แล้วพบว่าเป็นลู่หานที่วิ่งกลับมาเคาะกระจกรถอีกครั้ง พร้อมกับย่อตัวลงมาให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับเซฮุน ในตอนที่บานกระจกฝั่งลู่หานจะถูกลดระดับลงมาเรื่อยๆ
            ว่าไง ลืมอะไรอีก?”
            พี่ฮุนคะ...จะเป็นไรไหม ถ้าเราจะบอกพี่ว่า...
            ว่า?”
            พี่ช่วยโกหกพี่อี้ชิงทีได้ไหมคะ...คือว่า....คืนนี้เราอยากนอนกับพี่อีก
            หื้ม เอาจริงเหรอไม่อยากเชื่อกับหูตัวเอง ว่าลู่หานจะกล้าเดินกลับมาเพื่อที่จะบอกสิ่งๆนี้กับเขา
            ค่ะเซฮุนใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองพร้อมแสดงสีหน้าที่เหมือนจะแอบยิ้มอยู่หน่อยๆ ดูจะพอใจกับคำของน้องอยู่ไม่น้อยเลย
            ให้พี่โกหกว่าอะไรอะ
            บอกว่าหนูลืมของสำคัญไว้ห้องพี่ก็ได้ค่ะ เย็นนี้จะรีบไป เอานะคะ
            เซฮุนไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรใส่น้องหรือเปล่า ตั้งแต่เจอกันวันแรกจากที่ยังไม่กล้า ยังกลัวทุกสิ่งอย่างอยู่ พอมาวันนี้ลู่หานไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ร่างเล็กเดินหายเข้าโรงเรียนไปแล้ว เหลือก็แต่เซฮุนนี่แหละที่เอาแต่นั่งยิ้มอยู่บนรถเพียงคนเดียว มือถือในมือก็พร้อมที่จะต่อสายหาพี่สะใภ้ในอีกไม่ช้า
            ฮัลโหล พี่อี้ชิงเหรอ ผมเซฮุนเองนะ...


- The End -



หนทางดับคุก 
You' ll never คุก alone





            #ฉากบาปฮุนฮาน

          ที่มาของคำว่ายั่วตาใสนั่นคือน้องลู่หานในเรื่องนี้นี่เอง 555 ฉากบาปภาคนี้มันมีกี่ตอนเราเองก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าถ้าวันใดวันหนึ่งพี่ฮุนถอดเสื้อหรือมีความ sin ความ porn อีกให้เดินไปเรียกเราที่ทวิตได้เสมอ ขอบคุณค่ะ 55555555555 ตอนนี้จบแล้ว ไม่มีตอนหน้า คือไม่มีคือไม่บอกว่าจะแต่ง ถ้าใจเราอยากจะมา เดี๋ยวมาเอง 555 เผลอๆฉากใหม่ผุดมา อาจจะกลายเป็นภาค 4 เลยก็ได้