Winter trip
ตอนจบ
ไม่รู้ว่าลู่หานคิดไปเองหรือเปล่า
ว่าตั้งแต่ออกเดินทางจากรีสอร์ทมาพี่เซฮุนเองก็เอาแต่มองมาที่เธอไม่คลาดสายตา พอถึงตอนที่เรากำลังเดินเท้าขึ้นไปตรงน้ำตกของอุทยานเพื่อเล่นน้ำกัน
เซฮุนก็ไม่วายเดินตามหลังเธอมาติดๆ คนอื่นอาจจะมองว่าเซฮุนเป็นห่วงน้อง
แต่สำหรับลู่หานเธอคิดว่ามันไม่ใช่
“จะใส่ขาสั้นเล่นน้ำเหรอ” ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปยังน้ำตกด้านบนอย่างทุลักทุเล
เซฮุนที่อาสาขอถือกระเป๋าสัมภาระเล็กๆน้อยๆให้ลู่หานหันมาถามเธอทันที
“ค่ะ เราเตรียมแต่ขาสั้นมา”
“ไม่กลัวขาลายรึไง” ความจริงก็ห่วงว่าขาขาวๆจะลายด้วย
อีกใจก็หวงอยู่นิดๆ
“คือเราไม่ซีเรียสเรื่องนี้” ยิ้มตอบกลับไป
“อย่ายิ้มแบบนี้อีก”
“ทำไมเหรอคะ?”
“ใจพี่จะละลาย…”
เซฮุนไม่ค่อยชอบพูดจาหวานๆจีบใครก่อนอยู่แล้ว
สเปคเซฮุนค่อนข้างเรื่องมากด้วยซ้ำไป
แต่พอเป็นลู่หานเขากลับรู้สึกว่าถ้าออกตัวช้าไปมากกว่านี้
อาจจะไม่ทันคนอื่นก็เป็นได้
ยิ่งคนสวย น่ารัก ยิ้มหวานแบบนี้เป็นใคร ใครก็อยากได้
“น้องลู่หาน..”
“?”
เลิกคิ้วมองคนตัวสูงด้วยความสงสัย
“ไม่มีแฟนใช่ไหม ขอโทษที่เพิ่งถามตอนนี้นะ”
“อ่า ไม่มีค่ะ เรายังเด็กอยู่เลย”
ปากบอกว่ายังเด็ก แต่เรื่องเมื่อกี้ที่รีสอร์ทนั่น
เซฮุนก็นึกแปลกใจอยู่หน่อยๆว่าน้องมันไม่เคยหรือว่ายังไง
แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไรขนาดนั้น มันอาจจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบระหว่างเราสองคน
แต่เซฮุนกลับรู้สึกดีมากๆเลยก็ว่าได้
“นี่ สองคนนั้นน่ะจะคุยกันอีกนานไหม” เป็นเฮียคริสที่หันมาแซวน้องชายตัวเองที่เดินคุยกับลู่หานที่เดินตามหลังกันมาตลอดทาง
แม้ว่าจะไม่ได้แตะต้องตัวกัน จนทำให้ทุกคนรู้สึกสงสัย ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครรู้เลยสักคนว่าสองคนนี้ไปแอบทำอะไรกันมาก่อนที่จะมาขึ้นรถด้วยกันเมื่อเช้านี้
“เจอกันคืนนี้นะเด็กน้อย” เซฮุนหันมาบอกลู่หานพร้อมกับยื่นกระเป๋าถือคืนไปให้น้อง
“ค..ค่ะ” เมื่อตอบรับเสร็จลู่หานก็เม้มปากกลั้นความเขินอายไว้ในใจ
ก่อนที่เซฮุนจะเดินเข้าไปรวมกับกลุ่มเพื่อนแล้วรีบจัดการถอดเสื้อยืดออกจากทางศีรษะ
จนเหลือแค่กางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว เตรียมที่จะลงเล่นน้ำเต็มที่แล้ว
ซึ่งการที่อยู่ดีๆ
เซฮุนก็ถอดเสื้อต่อหน้านักท่องเที่ยวนับสิบที่เล่นน้ำอยู่แถวนี้
มันทำให้ทุกสายตาจดจ้องมาที่ลอนกล้ามของเซฮุนเป็นตาเดียว ทั้งยังผิวขาวๆกับหน้าตาที่ดูหล่อราวกับดารานั่นอีก
ลู่หานเองที่เห็นแล้วก็ใจคอไม่ดีเหมือนกัน
“เซฮุนนี่หล่อดีเนอะ ว่าไหม” อี้ชิงพี่สาวของลู่หานที่นั่งรอพวกหนุ่มๆเล่นน้ำอยู่ตรงริมฝั่งเพียงเพราะว่าวันนี้รอบเดือนมาเลยไม่สามารถลงไปเล่นด้วยได้
ส่วนลู่หานเองที่ยังชั่งใจอยู่ว่าจะลงดีไหม เพราะเห็นพี่ตัวเองไม่ลง
ใจที่อยากจะเล่นก็เริ่มไม่อยากเล่นเท่าไหร่แล้ว
“ค่ะ” ตอบกลับเพียงสั้นๆ
“แต่ก็คงจะมีแฟนแล้วแหละ หล่อๆแบบนี้จะหลุดมือสาวๆสวยๆไปได้ยังไง
เป็นถึงหุ้นส่วนธุรกิจร้านเสื้อผ้านำเข้า ไหนจะมีร้านอาหาร
ร้านกาแฟอีกหลายอย่างเป็นของตัวเองอีก ชีวิตเพอร์เฟคขนาดนี้
พี่ล่ะอิจฉาภรรยาในอนาคตของเซฮุนล่วงหน้าเลย”
“อ่า…” ตอนแรกก็ว่าจะถามจากพี่อี้ชิงว่าพี่เซฮุนมีแฟนแล้วรึยัง
พอได้ยินแบบนี้ ลู่หานก็แทบพับประโยคในใจของตัวเองเก็บไว้แล้วจ้องมองที่แผ่นหลังกว้างที่กำลังยืนเล่นน้ำอยู่ด้วยท่าทีที่ดูมีความสุข
“พี่เขานิสัยดีใช่ไหมคะ”
“ดี ดีอยู่นะ แต่มีผู้หญิงเข้าหาเยอะมากเห็นเฮียคริสมาบ่นกับเจ้อยู่”
ยิ่งคิด
ยิ่งเศร้าใจ แต่ก็คิดไว้แล้วว่ายังไงคืนนี้ตอนที่พี่เซฮุนมาหา
เธอก็ว่าจะลองถามดูก่อน ถ้าพี่เขามีใครคนอื่นในใจอยู่แล้ว ลู่หานจะไม่มีทางเอาตัวเองไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกของพี่เขาเด็ดขาด
“ลู่หาน!”
ในตอนนั้นเอง
พี่ชานยอลที่เดินขึ้นมาจากน้ำแล้วมุ่งหน้าตรงมายังสองสาวรีบตะโกนเรียกชื่อลู่หานเสียงดังลั่นจนคนน้องตกใจรีบขานรับกลับไปทันที
“คะพี่ชาน”
“ไปเล่นน้ำกันไหม”
“เอ่อ…”
“เซฮุนมันให้มาชวนน่ะ” ชานยอลเปรยสายตากลับไปมองเซฮุนที่ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ชวนอะไรหรอกเป็นชานยอลเองต่างหากที่จะมาเชิญน้องมันไปเล่นน้ำเอง
“แต่พี่อี้—“
“พี่อยู่ได้ ไปเล่นเถอะ”
“ได้แน่นะ”
“อื้อ ไปสิ” ไล่น้องไปโดยไวเพราะตามประสาเด็กก็คงอยากจะเที่ยวเล่นกันอยู่แล้ว
มาน้ำตกทั้งทีจะไม่เล่นน้ำเลยก็เหมือนมาไม่ถึงที่
“ก็ได้ค่ะ” ลู่หานตัดสินใจเดินตามพี่ชานยอลไปตรงจุดที่พวกหนุ่มๆกำลังเล่นน้ำด้วยกันอยู่
พอเดินมาถึงเซฮุนที่หันมามองร่างบางพอดีด้วยแววตาที่ดูนิ่งเฉย ไม่ได้แสดงอาการใดๆออกมา
รู้ตัวอีกทีพี่จงแดก็เดินขึ้นมาบนฝั่งแล้ว
“หิวว่ะ เหนื่อยด้วยมีเสบียงไรให้กินมะ” ลูบท้องของตัวเองปอยๆพร้อมกับหันไปสบตากับชานยอลเป็นอันรู้กันถึงแผนการที่จะปล่อยให้เซฮุนมันอยู่กับน้องลู่หานเพียงสองคน
“เออกูก็หิวว่ะ เมื่อกี้เดินไปหาพี่อี้เห็นแกซื้อขนมมาเต็มเลย
ไปนั่งพักกันก่อนไหม เดี๋ยวให้เซฮุนมันเฝ้าน้องลู่หานเล่นน้ำก็ได้” ชานยอลว่าพร้อมกับหันไปมองหน้าเซฮุนด้วย
“เห้ยไปกันได้เลย เซฮุนด้วย เดี๋ยวเฮียดูน้องเอง”
เป็นเฮียคริสที่ไม่ได้รู้ถึงแผนการนี้ด้วย
ขันอาสาจะรับหน้าที่ดูแลลู่หานเล่นน้ำเอง ส่วนน้องๆก็ปล่อยให้ไปหาอะไรกินกันก่อน
“พี่อี้ถามหาเฮียอะ บอกว่าเฮียไม่สบายห้ามเล่นน้ำนานมันไม่ดี”
“เฮียป่วยเหรอ?” คนที่ถูกกล่าวหาว่าป่วยได้แต่ทำหน้างงๆพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเพราะแม้แต่เจ้าตัวยังไม่รู้เลยว่าตัวเองป่วยอยู่
“พ..พูดผิดอะเฮีย พี่อี้อะบอกไม่ค่อยสบายเลย”
“อ้าว เป็นไร งั้นเดี๋ยวเฮียไปดูเองเซฮุนฝากน้องด้วยนะ”
“อือ” เซฮุนที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย
ได้แต่พยักหน้าตอบรับไป จนกระทั่งเฮีย ชานยอล และจงแดเดินออกไปจากตรงนี้แล้ว
เซฮุนเองถึงจะเดินขึ้นมาหาลู่หานที่ยืนใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นรออยู่ริมฝั่งแล้ว
“มาเล่นน้ำเขาไม่ให้ผู้หญิงใส่เสื้อสีขาวไม่รู้เหรอ” เอ่ยปรามไปเพียงเล็กน้อย
แต่ตัวเองกลับใส่เพียงแค่กางเกงขาสั้นโชว์กล้ามแน่นๆของตัวเองอยู่ได้
“ไม่ดีเหรอคะ?” ก็ไม่รู้จะใส่สีอะไรดี
เห็นว่าใส่สบายดีก็เลยหยิบมา
“ถ้าคนอื่นมอง คืนนี้พี่จะทำโทษ”
“จริงๆก็ตั้งใจใส่ให้มองอยู่แล้ว”
“หือ?”
“ตั้งใจใส่ให้พี่เซฮุนมองไงคะ” ยิ้มอย่างอายๆแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที
“ว่ายน้ำเป็นใช่ไหม ขึ้นไปเล่นข้างบนกันเถอะ
ตรงนี้คนเยอะข้างบนมันลึกกว่าเผื่ออยากดำน้ำ”
หลังจากที่ชวนลู่หานขึ้นไปเล่นด้วยกันข้างบนเสร็จ
ก่อนเดินไปเขาก็หันไปส่งภาษามือบอกเพื่อนตัวเองก่อนว่าจะขึ้นไปเล่นกันข้างบน
ไม่ต้องห่วงอะไรทำนองนี้
เมื่อเดินลับสายตาพวกเฮียและเพื่อนๆขึ้นมาแล้ว
ดูเหมือนว่าข้างบนนี้จะไม่มีใครขึ้นมาเลย เพราะบางคนก็ไม่รู้ว่าขึ้นได้
แต่ที่เซฮุนรู้เพราะว่าแอบเห็นป้ายตั้งแต่ตอนเดินขึ้นมาแล้วว่าข้างบนนี้มีที่ให้เล่นน้ำอีก
แถมน้ำยังลึกกว่า ใสกว่าข้างล่างด้วย
“ไม่เห็นมีใครเลยค่ะ”
“ก็ดีแล้ว” เซฮุนตอบเพียงเท่านั้นก่อนที่มือของตนจะเลื่อนไปจับที่ขอบกางเกงเหมือนกับว่าจะถอดกางเกงขาสั้นที่สวมใส่อยู่ออก
“พี่เซฮุน—“
“แบบนี้ไม่สบายกว่าเหรอ” หันมามองหน้าลู่หานก่อนที่ชายหนุ่มจะถอดกางเกงของตัวเองลงจนเหลือแค่เพียงชั้นในชายสีดำเพียงตัวเดียวเท่านั้น
“คือ เดี๋ยวมีคนมาเห็นนะคะ”
“ลงน้ำก็ไม่รู้แล้ว ลองดูไหม”
“พี่เซฮุนคะ คือ…” อยากรู้
และก็อยากจะถามออกไปมากว่าถ้าเราเปิดเผยกันขนาดนี้แล้ว
จากนัดคืนนี้พี่จะเลื่อนมาทำที่นี่เลยหรือเปล่า แค่คิดหัวใจของลู่หานก็รู้สึกเต้นแรงขึ้นมาทันที
ผีเสื้อในท้องก็คงบินวนอยู่นับล้านตัวแล้วตอนนี้
“ว่าไง?”
“พี่คงไม่ได้ทำที่นี่ใช่ไหม?”
“อ่อ…” ที่แท้น้องก็กังวลใจเรื่องนี้
“เวลาเราไม่ได้มากขนาดนั้น วางใจได้”
ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ลู่หานค่อยๆก้าวเท้าลงไปในน้ำตามเซฮุนลงไป เมื่อเดินลงไปแล้วกลับพบว่าน้ำตรงชั้นนี้ค่อนข้างลึกมาก
ระดับอกของเซฮุนแต่มันเกือบที่จะเลยปลายคางของลู่หานไปแล้ว
“ถอดเสื้อไหม”
“จะดีเหรอ”
“ลองดูสิ”
เซฮุนที่เชิญชวนน้อง
เลื่อนมือลงไปจับปลายเสื้อของลู่หานเอาไว้แล้วจัดการรูดถอดมันออกมาจากทางศีรษะ
ก่อนที่จะนำมันไปพาดไว้กับโขดหินทันที ทำให้ตอนนี้เรือนร่างบอบบางใต้ผิวน้ำมีเพียงแค่บราเซียสีดำสวมใส่อยู่กับกางเกงขาสั้นเพียงเท่านั้น
“น้ำแบบนี้ชอบไหม?” เอ่ยถามในขณะที่ไหล่กว้างของเขาก็มีมือบางของลู่หานจับยึดบ่าของตนเอาไว้แน่น
“ชอบค่ะ”
“อยากทำเรื่องสนุกๆกันไหม”
“หือ?”
“แข่งดำน้ำกัน ใครดำได้นานสุดคนนั้นชนะ เริ่ม!”
“อ๊ะ—“ ไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีไหล่แคบก็ถูกมือทั้งสองกดลงให้จมลงไปในน้ำเสียแล้ว
ร่างทั้งสองจมสู่ใต้น้ำ ด้วยความที่น้ำตรงนี้ใสมาก
ทำให้ลู่หานมองเห็นหน้าเซฮุนที่จับมือเขาอยู่ตลอดเวลาได้อย่างชัดเจน
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ กับการที่ได้มองอีกคนใต้น้ำแบบนี้
ส่วนเซฮุนเองที่ลืมตาขึ้นมาในน้ำ ไม่รอช้ารีบใช้สองมือดึงร่างของลู่หานเข้าหาตัว
มือหนาปล่อยมือลู่หานออกก่อนที่ริมฝีปากของชายหนุ่มจะกดทาบทับลงมาบนกลีบปากของเด็กน้อยทันที
จูบใต้น้ำที่ไม่มีใครรู้
ความลับและความสัมพันธ์แบบนี้จะมีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้น หัวใจของทั้งสองเริ่มเต้นเร็วขึ้นตามการป้อนจูบของเซฮุนที่ดูค่อนข้างจะยาวนาน
จนลู่หานเริ่มหมดอากาศหายใจ
เซฮุนจึงรีบดันตัวน้องขึ้นแล้วตามขึ้นมาป้อนจูบใส่โดยไว
จูบที่ดูดดื่มมันเป็นครั้งแรกของลู่หานที่ได้ทำเรื่องแบบนี้กับน้องชายของพี่เขย ที่จะไม่มีใครรู้
นอกจากเราเพียงสองคนเท่านั้น
“ลู่หาน…” หลังจากที่ผละจูบออก
ฝ่ามือหนาก็จับประคองแก้มนวลเนียนของผู้หญิงตรงหน้าขึ้นมา
ก่อนที่จะเอ่ยชื่อของเธออกไปเสียงแผ่วเบา
“พี่อยากศึกษาดูใจกับเรานะ”
“......”
“ถึงอาจจะดูว่ามันข้ามขั้นเกินไปหน่อย แต่พี่อยากให้น้องรู้ว่า—”
“…ใจพี่ยังไม่มีใครใช่ไหม” กลัวใจเซฮุน
จนสุดท้ายลู่หานก็กล้าถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจออกไปจนได้
“มีแล้วครับ”
“......”
“ชื่อลู่หาน” ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อทันทีที่ได้ยินชื่อของตัวเองหลุดออกมาจากปากของเซฮุน
“ตกลงจะดูใจกับพี่ไหม?”
“...........”
อยากจะตอบออกไปว่าใจนั้นอยากจะลองเปิดใจดู แต่อีกนัยหนึ่งคือก็กลัวว่าตัวเองจะดูเป็นเด็กที่ง่ายจนเกินไปจนดูไม่น่าค้นหาอะไรขนาดนั้น กลัวว่าจะดูเป็นเด็กอายุ 16
ที่เด็กเกินไปสำหรับพี่
“เราให้คำตอบพี่คืนนี้ได้ไหมคะ”
“พี่รอไม่ไหวแล้วสิ”
“แค่ดูใจเอง ไม่ได้ขอเป็นแฟนนี่คะ”
“ก็ได้ พี่จะไม่เร่งเร้าอะไรนะ”
“ค่ะ เอ่อ…”
“.............”
“เราจะไม่ดูเด็กเกินไปเหรอคะ หรือว่า…”
“พี่คิดดีแล้ว พี่ชอบเธอนะ
ชอบมาสักพักแล้วด้วยใจจริงเรื่องเมื่อเช้าพี่ก็กลัวว่าเธอจะไม่เล่นด้วย”
“ก็…”
“พี่จริงจังนะ คืนนี้พี่จะรอคำตอบนะครับ”
และนั่นก็เป็นประโยคสุดท้ายที่เซฮุนทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น
ระหว่างวันพี่เซฮุนเองก็ทำตัวปกติมาก ลู่หานเองก็ดูเงียบๆไป เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องตอนที่เราเล่นน้ำด้วยกันไปเรื่อยเปื่อยจนมาถึงตอนนี้ก็ห้าทุ่มกว่าแล้วหลังจากที่หายไปอาบน้ำเสร็จแล้วก็ไปนั่งล้อมวงดูดาวด้วยกันมาตอนนี้ทุกคนก็แยกย้ายเข้าเต็นท์ตัวเองไป
โดยลำดับเต็นท์จะเป็นเต็นท์เฮีย ต่อด้วยเต็นท์ของสามหนุ่มปิดท้ายด้วยเต็นท์ของลู่หานนั่นเอง
ร่างบางเอนกายลงนอนหนุนหมอนใบเล็ก ได้แต่นอนจ้องหน้าจอล็อคสกรีนที่เป็นรูปของตัวเอง
นอนมองเวลาก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ไม่รู้ว่าพี่เซฮุนจะมาไหม
เพราะเหมือนจะดื่มเหล้ากันอยู่ ยังไม่มีใครเข้ามานอนเลย
ลู่หานเองที่ยังดื่มไม่ได้ก็เลยไม่อยากอยู่ในบรรยากาศที่ตัวเองมีส่วนร่วมไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่
เลยขออนุญาตทุกคนหนีเข้ามานอนก่อนเป็นคนแรก
“อะฮึ้ม!” เสียงเหมือนคนกระแอมกระไอดังอยู่หน้าเต็นท์
พร้อมกับเงาดำๆ ทำให้ลู่หานแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใครกันแน่
ครั้นจะเปิดเต็นท์ออกไปดูก็กลัวจะเป็นนักท่องเที่ยวคนอื่นเข้า
“พี่เข้าไปนะ…” เป็นอันรับรู้ว่าคนที่ส่งเสียงเมื่อครู่นี้คือร่างสูงที่เขาได้นัดกันเอาไว้
ซิปที่ถูกรูดลงพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่แทรกกายเข้ามาภายในเต็นท์ที่มีขนาดไม่กว้างมากนัก
สามารถนอนได้ราวๆสามคน เมื่อมุดตัวเข้ามาได้แล้วซิปก็ถูกรูดขึ้นทันที
พร้อมกับร่างของลู่หานที่ลุกขึ้นนั่งอยู่ข้างๆกับโคมไฟเล็กๆภายในเต็นท์ของเธอ
“ขอโทษที่ให้รอนะ”
เซฮุนรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำหอมที่ลู่หานฉีดใส่ตัวตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน
ดูท่าน่าจะเป็นกลิ่นที่ติดตัว ติดเสื้อน้องไปแล้ว
เลยทำให้กลิ่นภายในเต็นท์มันหอมอบอวลได้ถึงเพียงนี้
“คนอื่นล่ะคะ?”
“พวกนั้นยังกินเหล้ากันอยู่เลย”
ในขณะที่พูดไปเซฮุนก็ขยับร่างกายเข้ามาหาลู่หานด้วย
วงแขนกว้างค่อยๆกางออกเพื่อรั้งร่างของน้องสาวเข้าหาตัว
“พี่ไม่กินต่อเหรอ เรา...เอ่อ คือเรารอได้”
“รอพี่อยู่เหรอ”
“.........”
ก้มหน้าเก็บงำคำพูดเอาไว้ เมื่อตนนั้นเผลอพูดในสิ่งที่อยู่ในใจออกไปอย่างลืมตัว
“ขอโทษที่ช้า มัวแต่ไปหาของมา” ไม่ว่าเปล่าเซฮุนล้วงมือเข้าไปในกางเกงยีนส์ของตนเพื่อหยิบเอากล่องสี่เหลี่ยมที่ข้างในบรรจุถุงยางเอาไว้ออกมาแล้วส่งมันไปให้ลู่หานถือเอาไว้
“รอให้เราเรียนจบก่อน แล้วพี่จะเลิกใช้มันนะ”
“พี่เซฮุน…” กายสูงค่อยๆดันร่างของน้องให้นอนราบลงไป
พร้อมกับทาบกายทับเอาไว้ฝังใบหน้าลงไปที่ซอกคอหอมๆอย่างนึกหลงใหล
เวลาแห่งความสุขของเราทั้งสองคนกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว
“อือ…” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของเซฮุนยิ่งทำให้ลู่หานแพ้
เธออ่อนไหวและยินยอมที่จะพลีกายให้กับพี่ชายคนนี้แบบไม่คิดเลยว่าถ้าหากพี่อี้ชิงรู้เข้าคงจะโดนโกรธเข้าแน่ๆ
“พี่เซฮุนคะ..ชะ..ช้าๆได้ไหม คือเรากลัว”
“ไม่ต้องกลัว ทำตัวสบายๆก็พอ อย่าเครียดพี่ไม่เร่งเราหรอก…ถอดเสื้อออกแล้วเราดับไฟไหม”
เซฮุนพยายามเสนอสิ่งที่ดีที่สุดออกไปเพื่อให้น้องสบายใจมากที่สุด
จนกระทั่งลู่หานยอมพยักหน้าตอบตกลง เซฮุนจึงรีบจัดการเสื้อยืดที่ตนใส่อยู่ออกแล้วเลื่อนมือไปปลดเข็มขัดหนังของตนเองออกซะ
กางเกงยีนส์สีซีดถูกรูดออกจากเรียวขายาวของชายหนุ่มผู้มีส่วนสูงราวๆ 183
เซนติเมตร ใบหน้าและเรือนร่างของเซฮุน
ลู่หานรู้สึกว่ามันทำให้เธอแทบคลั่ง
“หนูจะถอดเองหรือ—“
“ถ...ถอดเองค่ะ”
ร่างบางยันกายลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง
ชุดกระโปรงตัวยาวของเธอก็ถูกปลดออกจากตัวอย่างเชื่องช้า
จนเซฮุนเห็นได้ชัดว่าน้องไม่ได้ใส่ชั้นในแม้แต่บราก็ไม่มี ง่ายต่อการถอดยิ่งนัก
“อย่าจ้องสิคะ” ถอดแล้วจะไม่มองก็คงแปลก
ร่างสูงจดจ้องมองไปที่หน้าอกของเธอด้วยอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง
ลิ้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายแลบเลียที่ริมฝีปากของตนเอง
พร้อมกับส่งมือออกไปวางแนบลงบนเนินอกของเธออย่างทะนุถนอม
“อ๊ะ—“
“กลัวไหม” ลู่หานเงียบไป
ปล่อยให้มือของเซฮุนคุกคามส่วนบนของตนแบบไม่คิดว่าใดๆทั้งสิ้น
สายตาอ้อยอิ่งของคนน้องที่จ้องตากับเซฮุนอยู่ตลอดเวลา
เหมือนเป็นใบเบิกทางว่าเซฮุนสามารถที่จะทำอะไรเธอก็ย่อมได้หมดในตอนนี้
“พี่เซฮุน…”
“เลิกเรียกว่าพี่เซฮุนได้แล้ว”
“........”
“ตอนนี้เราเป็นมากกว่าพี่น้องกันแล้วนะ
รู้ไหม—”
“ค่ะ..”
ไม่ทันที่เซฮุนจะพูดจบ ร่างบอบบางก็จู่โจมเข้าหาร่างสูงพร้อมกับป้อนจูบใส่โดยที่ไม่รีรอให้เซฮุนนั้นเริ่มก่อน
สองร่างหนุ่มสาวที่แอบมีสัมพันธ์ลับๆกันภายในเต็นท์เริ่มต้นความสัมพันธ์กันทันที
ในขณะที่แสงไฟจากโคมไฟถูกลดความสว่างลง
พร้อมกับร่างของลู่หานที่ถูกดันนอนลงอีกครั้ง
โดยที่ริมฝีปากของเราก็ยังป้อนจูบใส่กันไม่ละออกจากกันไปไหน
เซฮุนรู้สึกได้ถึงความต้องการของตัวเองกับลู่หานนั้นเริ่มมีมากขึ้นพอๆกัน รอยจูบเริ่มปรากฏขึ้นเต็มไปทั่วทั้งเนินอก
จนเริ่มขึ้นสีแดงเพราะรอยฟัดของร่างสูงอย่างตะกละตะกลาม
รู้ตัวอีกทีตอนนี้เสื้อผ้าทุกชิ้นของเราทั้งสองคนก็ถูกดันไปกองเอาไว้ที่ปลายเท้าแล้ว
“ไม่โอเคบอกนะ พี่จะได้หยุด” เซฮุนผละใบหน้าของตนขึ้นมาจากเรือนร่างของลู่หาน
ก่อนที่มือจะเลื่อนออกไปหยิบกล่องถุงยางมาแกะออกแล้วจัดแจงใส่มันอย่างรวดเร็ว
จนลู่หานแปลกใจว่าทำไมพี่เซฮุนถึงดูชำนาญขนาดนี้
“พี่เคยแล้วเหรอคะ…”
“ครับ กับแฟนคนแรก ตอนมหาลัยน่ะ” ไม่คิดจะโกหกใดๆทั้งสิ้น เพราะถึงยังไงก็เลิกกับแฟนเก่าไปนานแล้ว
ไม่บอกตอนนี้วันหน้าเดี๋ยวลู่หานก็นึกสงสัยอีกอยู่ดี
“........”
“แค่ครั้งเดียว คนเดียว”
“จริงเหรอคะ”
“สัญชาตญาณของพี่มั้งเลยดูเหมือนพี่เชี่ยวชาญ”
“ก็มันน่าสงสัยนี่คะ…”
“พี่ก็เชี่ยวชาญกับหนูคนเดียวนั่นแหละ”
“อ่า…” ลู่หานได้แต่อ้าปากค้าง
จ้องมองสองมือของพี่เซฮุนที่จับขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นพาดบ่าเอาไว้
จัดแจงท่าทางอะไรให้เรียบร้อย ก่อนที่กายหนาจะโน้มตัวลงมาด้านหน้าแล้วพรมจูบที่หน้าผากของหญิงสาวเพียงแผ่วเบาพร้อมกับเลื่อนมือลงไปกดเปิดหน้าจอโทรศัพท์ของลู่หานที่วางอยู่ข้างหมอนเพื่อดูเวลาตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้ว
กะเวลาคร่าวๆเอาไว้น่าจะได้อยู่กันจนเกือบเช้าแน่ๆ
“อาจจะเจ็บ แต่ร้องเบาๆนะคะ” พร่ำบอกข้างๆใบหู
ก่อนที่มือจะยื่นออกไปดับไฟตรงโคมไฟแล้วใช้ความรู้สึกของตนสัมผัสเรือนร่างของลู่หานแทน
ส่วนปลายของแกนกายถูไถวนรอบช่องทางของร่างบางไปพลางๆ ระหว่างที่รอจังหวะ เผลอเมื่อไหร่ส่วนนั้นก็จะถูกสอดเข้าไปในช่องทางของลู่หานทันที
“อ๊ะ!”
“อ่า เจ็บหน่อยนะ”
“ค...ค่ะ” ฟันคมกัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น
ครั้งนี้ส่วนนั้นของพี่เซฮุนมันใหญ่ขึ้นจนรู้สึกอึดอัดมากๆ แต่พอจินตนาการว่าพี่เซฮุนกำลังทะนุถนอมเรา
ความเจ็บที่ค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นกลับค่อยๆลดลงจนแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีๆระหว่างเราสองคนแทน
“อ๊ะๆ..อ๊ะๆ..” ร่างบางกลั้นเสียงร้องของเธอเอาไว้
เพราะเต็นท์แถวนี้มันติดๆกัน
ถ้าร้องเสียงดังไปใครๆก็รู้ว่ามีคนกำลังทำเรื่องอย่างว่ากันอยู่
เสียงเนื้อที่กระทบกับบั้นท้ายอวบอิ่มของลู่หานดังขึ้นมาเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เซฮุนเองก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป พักบ้างรัวบาง ช้าบ้าง
จนเมื่อตนนั้นรู้สึกว่าเริ่มจับจังหวะได้แล้ว เอวหนาก็จัดการซอยสะโพกถี่ขึ้นเรื่อยๆ
จนในบางคราเสียงครางกระเส่าก็หลุดเล็ดลอดดังออกมาจากปากของลู่หานบ้างเช่นกัน
“อื้อ อื้อ อื้อ…”
“ร้องข้างๆหูพี่ก็ได้ อ่า อย่างนั้น…”
“พ..พี่ฮุน น้องเสียว ไม่ไหวแล้ว อ..”
“พี่ก็เหมือนกัน อื้อ!” ย้ำๆเน้นๆขยับกายเข้าออกถี่ๆเนิ่นนานเกือบอยู่หลายนาที
จนในที่สุดร่างบางก็เริ่มทนไม่ไหวเริ่มมีอาการบิดกายไปมาอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะที่เซฮุนเองก็เริ่มไม่ไหวแล้วเช่นกัน จึงรีบขยับกายเข้าออกสองสามครั้งรัวเร็ว
แล้วรีบชักออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองจะปลดปล่อยน้ำแรกออกมาแล้ว
“อ่าา…” ถุงยางถูกดึงออกพร้อมๆกับลมหายใจที่เข้าออกแรงๆราวกับคนที่เพิ่งไปวิ่งมา
ลู่หานเองก็เหนื่อยไม่แพ้กัน นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มด้วยแรงที่แทบไม่หลงเหลืออยู่แล้ว
“เห้ย เต็นท์นี้ๆ…”
“เชี่ย มันมาละ” เซฮุนที่เหมือนจะได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันอยู่ตรงเต็นท์ข้างๆ
ร่างสูงจึงรีบหันไปบอกลู่หานที่นอนอยู่ทันที
“เอาไงดีคะ พอไหม”
“พี่ไม่พอ...อีกรอบได้ไหม” เซฮุนตั้งใจจะอยู่กับลู่หานทั้งคืน
แต่เพื่อนตัวดีดันกลับมาไหวเหลือเกิน
“แต่เพื่อนพี่มาแล้วนะ”
“ขออีกรอบนะ นะ” เจอลูกอ้อนของเซฮุนเข้าไปลู่หานเองก็ยากที่จะปฏิเสธเหมือนกัน
“อื้ม”
“ขึ้นนะ น่าจะเสียงเบาสุดแล้ว”
“ค่ะ” ไม่ปฏิเสธทั้งสิ้น ลู่หานถูกดึงตัวขึ้นไปนั่งคร่อมตักของตัวเองเอาไว้
ถุงยางอีกชิ้นถูกสวมใส่เข้าไปอีกครั้ง รอบที่สองระหว่างเราเริ่มต้นขึ้น
ลู่หานที่เป็นเด็กดีพยายามขย่มกายลงมาช้าๆ เพราะความปวดหนึบที่ท้องน้อย จึงทำให้ลู่หานทำเร็วมากไม่ได้
ฝ่ามือขนาดใหญ่วางลงบนหน้าอกกลมกลึงอีกครั้ง
คราวนี้เซฮุนทั้งบีบทั้งนวดไปเรื่อยๆระหว่างรอรอบนี้เสร็จ ตัวเขาเองมีความสุขมากจนบอกไม่ถูก
ลู่หานเองก็เช่นกัน
“พ..พี่คะ!”
“ปล่อยในได้ไหม”
“ม..ไม่ได้ค่ะ อื้อ”
“มีถุงอะ”
“อื้อ…” อะไรก็ไม่รู้แล้ว
ลู่หานพยายามตอบโต้ให้น้อยที่สุด แล้วขยับสะโพกไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งสิ่งที่เธอคิดว่าพี่เซฮุนพูดเล่นก็เกิดขึ้นจริง
พอถึงจังหวะที่สูงสุดของอารมณ์
ร่างสูงเลือกที่จะสวนสะโพกขึ้นมาแล้วจัดการปล่อยมันออกมาข้างในทั้งๆที่มีถุงยางห่อหุ้มเอาไว้อยู่
บทรักของเราจบลงตอนตีสอง
ลู่หานตอนนี้หมดแรงหลับคาอกเซฮุนไปเป็นที่เรียบร้อยและเซฮุนเองก็ยังไม่กลับเต็นท์เดี๋ยวนั้น
เขายังคงนอนกอดน้องเอาไว้ เป็นความอบอุ่นท่ามกลางความหนาวเหน็บให้น้องไปเรื่อยๆจนกว่าจะเช้า
“พี่ฮุน...ยังไม่นอนเหรอ” แววตาที่ดูอ่อนล้าช้อนสายตาขึ้นมามองร่างสูงที่ยังคงนอนกอดร่างของลู่หานเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
“ตื่นขึ้นมาทำไม ไม่ง่วงเหรอ”
“ง่วงค่ะ แต่เพิ่งนึกได้ว่าลืมตอบคำถามพี่ไป”
“หือ?”
“ที่พี่ถามว่าจะศึกษาดูใจกับพี่ไหม...เราตัดสินใจแล้วนะ”
“ว่า?”
“เราตกลงจะดูใจกับพี่”
“แน่ใจแล้วนะ คือพี่จะบอกว่าพี่กลัวเราคิดมาก เรื่องเมื่อเช้า—“
“เราดูเป็นเด็กไม่ดีใช่ไหม”
“ไม่ๆ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น คือมองพี่มานานแล้วเหรอ”
“ค่ะ เห็นพี่ตั้งแต่พี่อี้คบกับเฮีย”
“ครั้งแรกตอนเห็นพี่รู้สึกยังไง”
“หล่อ แค่นั้นก็ไม่ได้คิดอะไร”
“จริงเหรอ?”
“ก็อยากเป็นเมียพี่ด้วยตรงไปใช่ไหม คือ...เราก็อยากลองมีแฟนดู
แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่จะสนใจเราด้วย”
“คบไหม?” รู้ว่ามันเร็วมากที่จะพูดคำนั้นออกไป
แต่เซฮุนก็ตีตราจองน้องไปแล้ว อะไรที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบได้มากที่สุดก็อยากจะทำ
“พร้อมบอกเรื่องของเรากับพี่อี้ไหม
ถ้าไม่ก็รอพร้อมแล้วเราค่อยเป็นแฟนกันจะดีกว่าไหมคะ”
“...อ่า เอางั้นเหรอ”
“ขอดูนิสัยพี่ก่อน พี่ก็ดูนิสัยเราก่อนด้วย
เราไม่ซีเรียสนะถ้าพี่จะเลิกคุยกับเราแล้วไปคบคนอื่นที่โตกว่า เพราะเรายังเด็ก
ช่วงวัยเราอาจจะทำให้เราสองคนเข้ากันไม่ได้ก็ได้”
ลู่หานคิดมากกับทุกเรื่อง
แต่เรื่องแฟนมันก็ควรที่จะคิดให้มากๆ
เธอขอบคุณด้วยซ้ำที่เซฮุนเลือกที่จะป้องกันตั้งแต่แรก
อย่างน้อยมันก็ทำให้ลู่หานได้ใช้เวลาทบทวนว่าการทำแบบนี้มันทำให้คนสองคนไปด้วยกันได้จริงไหม
หรือถ้าไม่ไหวต้องเลิกคุยกัน ก็คงจะต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตแล้ว
“ความคิดโตกว่าพี่อีก”
“เราแค่สิบหกเอง”
“เรียกลูกได้เลยนะเนี่ย”
“…จะกลับเลยไหม
จะได้แต่งตัวเดี๋ยวเช้าแล้วคนเห็นว่าพี่ออกจากเต็นท์เรามันจะไม่ดีนะ”
“ลู่หาน”
“คะ?”
“มัดจำอีกรอบก่อนไปได้ไหม…”
...สุดท้ายแล้วก่อนจากเซฮุนก็ได้มัดจำจากน้องไปอีกรอบ
ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงตีห้าแล้ว ถ้าฟ้าสว่างขึ้นมาเมื่อไหร่ ทุกคนก็คงจะเริ่มตื่นกันแล้ว
“ไปแล้วนะ”
“ไม่อยากให้ไปเลย…” เด็กน้อยรั้งท่อนแขนของพี่ชายเอาไว้
“อะ เก็บไว้” เซฮุนล้วงหยิบเอาการ์ดใบสีขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกง
ก่อนจะยัดมันใส่มือของน้องทันที
“อะไรคะ?”
“คีย์การ์ดห้องพี่...เลิกเรียนแล้วมาทำการบ้านที่ห้องพี่ได้นะครับ” จบบทสนทนาสุดท้าย เซฮุนก็จูบลาแล้วพาตัวเองออกไปจากเต็นท์ทันที
ทิ้งให้ลู่หานต้องนั่งมองคีย์การ์ดในมือตัวเองด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มราวกับว่ามันใกล้จะระเบิดตัวเองออกมาเมื่อเธอจินตนาการถึงอนาคตของเรา
นี่คงหมายถึงการสานต่อความสัมพันธ์ของเราในอนาคตใช่ไหม
ช่วงสายของวัน
ที่เราจะต้องเดินทางกลับบ้านกันแล้ว เซฮุนกับจงแดต้องแยกไปกับรถของชานยอล
ส่วนรถของเฮียคริสก็จะมีสองสาวนั่งกลับไปด้วย
น่าเสียดายที่ก่อนกลับเรายังไม่ได้ลากันเลย
โดยระหว่างทางที่นั่งรถกลับบ้าน ลู่หานนั่งอยู่ตรงเบาะหลัง
มือถือของเธอที่สั่นรัวๆสองสามทีปรากฏข้อความจากไลน์เด้งขึ้นมาจากใครอีกคนที่เธอกำลังนั่งคิดถึงอยู่ตอนนี้
[ตอนกลับก็ไม่ให้เบอร์พี่]
[ใจร้าย…]
“พี่เซฮุน?”
“ไปเอาไลน์เรามาจากใคร แล้วทำไมเรากดรับพี่แล้ว?”
[เมื่อคืนแอบสแกนนิ้วแล้วเข้าไปแอดมา ขอโทษที่เห็นแชทหนุ่มๆที่ทักมาจีบเธอนะ
แต่คราวหลังก็ช่วยตอบกลับไปด้วยว่ามีเจ้าของแล้ว]
“ก็ยังไม่ใช่แฟนสักหน่อยนี่”
[
‘มีผัวแล้วค่ะ’ ตอบไป
หรือจะให้พี่ทักไปด่ามันว่า ‘ยุ่งอะไรกับเมียกูวะ’ ดีไหม?]
ลู่หานได้แต่นั่งเขินอายกับข้อความนั้นจนแทบบ้า
ระยะเวลาหลายร้อยกิโลเมตรที่นั่งรถดูไม่น่าเบื่อเลยสักนิด
ถ้าได้คุยกับพี่เซฮุนไปตลอดทางแบบนี้ ให้นั่งไปอีกสักพันกิโลเมตรก็ยังได้…
- The End -
แท็ก
#ฉากบาปฮุนฮาน
ทอล์คหลังแต่งจบ
สั้นๆว่า
‘เขินค่ะ’ ไปค่ะแยกย้ายกลับบ้านได้ 5555