วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2562

10 - ใจผมเป็นของคุณ


          





          “ปิ๊ก...”
          “ปะ...เปลี่ยนเรื่องไหม” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

          “ไม่เป็นไร คือ...”

          จังหวะนั้นจ้านเงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างสูงพอดีแววตาที่หยาดเยิ้มปนกับความรู้สึกที่ตีรวนอยู่ข้างในทำให้ทั้งสองละความสนใจจากหนังเรื่องนั้นไปแล้วกลายเป็นว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้ดูจะน่าสนใจมากกว่า

          ใบหน้าของคนที่นั่งอยู่สูงกว่าค่อย ๆ ก้มลงมาหาอีกฝ่ายช้า ๆ ขณะเดียวกันสองมือที่บีบกันแน่นค่อย ๆคลายตัวออก ปิ๊กดันให้ร่างของจ้านเอนตัวนอนลงบนเตียงช้า ๆ ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งสองจะแตะสัมผัสกันเบา ๆ ไม่มีแม้แต่คำขอ ไม่มีคำพูดใด ๆ นอกจากการกระทำที่เป็นไปตามใจของคนสองคน

          “อื้อ” เสียงร้องครางในลำคอดังออกมาผะแผ่ว ปิ๊กบรรจงจูบอีกคนด้วยท่าทางที่นุ่มนวลและอ่อนโยน สอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วใช้มือนั้นกระตุกปมเสื้อคลุมที่บดบังเรือนร่างสวยงามนั้นออก ก่อนที่เขาจะโยนมันทิ้งลงไปบนพื้นอย่างไม่ใยดี

          ร่างกายที่ขาวสะอาดน่าทะนุถนอมยิ่งได้มองในเวลากลางวันแบบนี้ยิ่งทำให้ปิ๊กไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย คอยแต่ก้มลงไปจูบริมฝีปากที่ขึ้นสีแดงระเรื่อนั้นซ้ำ ๆ ก่อนจะขยับใบหน้าเลื่อนลงมาซุกซบลำคอขาวที่เอียงรับสัมผัสจากเขาอย่างรู้งาน

          ฝ่ามือขนาดใหญ่ลูบวนไปตามท่อนแขนของคนใต้ร่างเบา ๆ เสียงร้องอื้ออึงอยู่ในลำคอยังคงส่งเสียงให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ ปิ๊กเงยหน้ายืดตัวขึ้นสูงแล้วไขว้มือมาข้างหน้าถอดเสื้อยืดสีดำออกจากตัว ทำให้ตอนนี้จ้านที่ทอดสายตามองขึ้นมาเห็นเรือนร่างที่ซ่อนรูปของปิ๊กก็ยอมรับว่าข้างในของเขามันสั่นไปหมด

          นี่คือครั้งแรกและจ้านก็เตรียมใจแล้วว่าเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ ไม่ช้าก็เร็ว

          แต่ทว่าบางที เมื่อถึงหน้างานจริง ๆ เขาก็เริ่มหวั่นใจแล้วเหมือนกัน

          “กลัวไหม?” ปิ๊กก้มหน้าลงมาถามอีกคนที่ไม่กล้าแม้แต่จะสู้หน้าเขาเลย ไม่รู้มันเขินอะไร แต่พอเห็นปิ๊กตอนไม่ใส่เสื้อแบบนี้ จ้านจ้านคนขี้อ่อยในแชทนั่นมันก็วิ่งหนีหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ตอนนี้เหลือแค่จ้านจ้านคนขี้อายที่แม้แต่จะเริ่มก่อนยังไม่กล้าเลย

          “เค้าไว้ใจปิ๊กนะ”

          “อืม ปิ๊กจะพยายาม”

          “หือ?”

          “จะพยายามเสร็จให้ไว...” เอื้อมตัวไปกดดูเวลาบนหน้าจอมือถือก็น่าจะพอมีเวลาอยู่ ก่อนที่เขาจะออกไปร้องเพลงเย็นนี้ ปิ๊กไม่รอช้าเมื่อเห็นว่าเราสองคนคงจะหลีกหนีกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้แล้ว สองมือเลื่อนลงไปจับที่หัวเข็มขัดของตนปลดมันออกก่อนจะตามมาด้วยกระดุมกางเกงยีนส์ รูดซิปลงแล้วล้วงเอาบางสิ่งบางอย่างที่มันแข็งขืนอยู่กลางลำตัวออกมา

          อีกนิดก็จะฟาดลงมาที่หน้าของจ้านแล้ว

          “กล้าใช้ปากไหม?”

          “อืม” พยักหน้าแบบไม่คิดที่จะปฏิเสธแต่อย่างใด แม้ว่าข้างในนั้นจะหวาดกลัวมากเพียงไหน
          ลึก ๆ ที่ไม่กล้าใช้ปากกับของของปิ๊กเพราะกลัวว่าอีกคนจะไม่พอใจแต่ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้วเขาก็คงต้องยอม

          ร่างเล็กขยับกายลุกขึ้นนั่งคุกเข่าตรงหน้าปิ๊กที่ตอนนี้หยัดกายขึ้นคุกเข่าสูง ฝ่ามือใหญ่เลื่อนลงมาจับที่ศีรษะของอีกฝ่าย สองมือข้างจ้านเริ่มจับประคองที่แกนกายรูดรั้งขึ้นลงเบา ๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงอาการสั่นสู้ที่ทำให้ปิ๊กอดยิ้มตามไม่ได้

          จ้านน่ารักเกินไปไหมวะ

          ไม่คิดเลยว่าครั้งแรกของเราจะทำให้จ้านเสียอาการขนาดนี้

          “อุก...”

          ริมฝีปากที่ห่อตัวจนได้รูปค่อย ๆ ก้มลงไปครอบครองเอาความยิ่งใหญ่นั้นเข้าไปในปากจนคับแน่นไปหมด แต่เพราะขนาดของมันทำให้เขาไม่สามารถครอบลงไปจนสุด สองมือที่ไม่รู้จะเอามันไปวางไว้ตรงไหนก็เลยเลื่อนลงมาจับประคองที่ตรงส่วนโคนเอาไว้ช่วยรูดรั้งมันอีกแรง

          ปิ๊กมองเห็นถึงการกระทำนั้นก็อดหวาดเสียวไม่ได้ จนต้องเลื่อนมือหนึ่งลงไปทาบทับแก้มอวบอูมที่ด้านในมีของสำคัญของเขาสอดใส่อยู่ ทั้งความร้อนและความเปียกชื้นของโพรงปากนั้นทำเอาปิ๊กแทบเป็นบ้า ต้องพรูลมหายใจออกมาเป็นพัก ๆ ก่อนที่เขาจะขาดใจตายไปซะก่อน

          “อ่า...ซี๊ดด”

          ร่างสูงแหงนหน้าขึ้นสูงลูกกระเดือกเคลื่อนขึ้นลงพร้อมกับเสียงสูดปากที่ดังแว่วมาเรื่อย ๆ ลิ้นร้อนค่อย ๆ เริ่มทำหน้าที่ของมันด้วยการแลบเลียตั้งแต่ส่วนโคนขึ้นมาจนถึงปลายที่ปริ่มน้ำ เกร็งลิ้นจนมันแข็งแล้วบดขยี้รูเล็ก ๆ นั้นจนกระทั่งน้ำสีขาวขุ่นเริ่มไหลซึมออกมา

          ไม่คิดเลยว่าคนที่ปิ๊กคิดว่าใสซื่อมาตลอดจะร้อนแรงมากขนาดนี้

          จ้านจ้านของเขาน่ารักจนปิ๊กใจเหลวไปหมดแล้ว ... นั่นคือเรื่องจริง

          “อืออ”

          ศีรษะที่ขยับขึ้นลงยามที่จับจังหวะได้แล้วเจ้าตัวก็เริ่มใช้ปากปรนเปรอส่วนนั้นของปิ๊กที่จากตอนแรกก็เคยเข้าใจว่ามันน่าจะขยายตัวมากพอแล้วแต่ไม่เลย พอได้รับสัมผัสจากจ้านเข้าไปอีกกลับรู้สึกว่ามันน่าจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ถ้าอย่างนั้น...หากมันเข้ามาอยู่ในตัวของจ้าน จ้านจะรับมือไหวไหมนะ

          “อ่า จ้าน...ซี๊ดดด...เบาหน่อย”

          มือที่สั่นเทาขยุ้มกลุ่มผมนุ่มลื่นนั้นเบา ๆ เผื่อระบายความกระสันออกมา ยิ่งในยามที่อีกฝ่ายเอาฟันกระต่ายครูดไปตามผิวเนื้อส่วนนั้นจนปิ๊กแทบขาดใจจินตนาการไปไกลเกินกว่าจะกลับมาได้ ขืนไม่บอกให้เบาเขาคงเสร็จไวแน่ ๆ ซึ่งปกติแล้วปิ๊กไม่ใช่คนที่ทำเรื่องอย่างว่าแล้วจะเสร็จไวขนาดนั้น


          เวลาผ่านไปสักพักจนปิ๊กคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะปลดปล่อยมันได้สักที จ้านเองก็เริ่มรู้ตัวว่าอีกคนน่าจะไม่ไหวแล้วก็เลยเร่งจังหวะขยับปากขึ้นลงให้รัวเร็วยิ่งขึ้นจนเสียงน้ำลายดังคละเคล้าไปกับเสียงร้องเรียกชื่อจากคนข้างบนดังขึ้นมาพร้อม ๆ กัน

          “ใกล้แล้ว อ่า”

          ปิ๊กจะไม่ไหวแล้ว แต่ทว่าในช่วงวินาทีที่เร่งรีบนั้นเอง เสียงเคาะประตูหน้าห้องกลับทำให้อารมณ์ที่กำลังพุ่งขึ้นสูงดิ่งลงเหวราวกับกราฟชีวิตที่ร่วงลง จ้านคายส่วนนั้นของปิ๊กออกมาจากปากจนน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาเป็นทางยาว เงยหน้ามองคนด้านบนคล้ายอยากจะถามว่ายังอยากให้ทำต่อไหม

          “ไม่ต้องสนใจ ปิ๊กจะเสร็จแล้ว”

          “อืม” จ้านรีบก้มหน้างุดจับประคองส่วนนั้นป้อนเข้าไปในปากอีกรอบ มืออีกข้างก็เลื่อนลงมาจับที่อวัยวะนั้นของตัวเองเพื่อช่วยให้เราเสร็จไปพร้อม ๆ กันจนกระทั่ง...




          ก๊อก ก๊อก ก๊อก  



          เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง ปากที่เริ่มขยับต่อเริ่มเคลื่อนไหวช้าลงดวงตาสุกใสช้อนขึ้นไปมองหน้าปิ๊กอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายน่าจะยังไม่อยากให้หยุดกิจกรรมใด ๆ ก็แล้วแต่ในตอนนี้ มือหนากดหัวของจ้านให้สนใจแต่ของของเขา ไม่ว่าใครมันจะมาเคาะประตูตอนนี้ก็ไม่ต้องไปสนใจมันอีก

          คนกำลังเอากับเมีย มันใช่เวลามาเคาะประตูเรียกไหมวะ       

          ปิ๊กกูมาตามให้ไปเช็คเวทีอะ” เสียงของแทนกายตะโกนเข้ามาจากหน้าห้องเมื่อไม่มีใครเดินมาเปิดประตูให้สักที ร้องเงี่ยหูฟังดูก็ได้ยินแต่เสียงที่เหมือนมันดังมาจากทีวีในห้อง ไม่น่าใช่เสียงคนพูดคุยกันเลย  

          “เชี่ยแทน ใช่เวลาไหมวะ...อ่า จ้านน ปิ๊กจะไม่ไหวแล้วครับ” ปิ๊กสบถอย่างหัวเสียแต่ประโยคหลังก็ดึงให้เขากลับเข้ามาสู่สนามรบอีกครั้ง

          สะโพกแกร่งขยับสวนเข้าไปถี่ ๆ จนกลัวว่าส่วนหัวของมันจะไปทิ่มแทงลึกเกินไปจนจ้านอาจจะสำลักแต่ตอนนี้เขาเริ่มไม่ไหวแล้วจริง ๆ ขืนให้ออกไปเปิดประตูตอนนี้คงจะเสร็จระหว่างทางแน่ ปิ๊กจึงรีบขยับกายเข้าออกอีกสองสามทีจนในที่สุดเขาก็พลั้งตัวเผลอปล่อยเข้าไปในปากของจ้านจนมันเอ่อล้นลงมาตามมุมปาก 

          แกนกายขนาดใหญ่ค่อย ๆ ถอดถอนออกมาจากปากของอีกคนช้า ๆ ปิ๊กก้มลงไปจูบซับที่ข้างแก้มที่ขึ้นสีแดงเบา ๆ เป็นรางวัลสำหรับคนเก่งที่อดทนทำให้เขาจนเสร็จแบบนี้

          “คนเก่ง ไปล้างปากในห้องน้ำนะครับ เดี๋ยวปิ๊กมา”

          ว่าพร้อมกับเอื้อมตัวไปหยิบกล่องทิชชูข้างหัวเตียงแล้วดึงมันออกมาซับที่มุมปากที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบคาวของเขาอย่างทะนุถนอม ในขณะเดียวกันที่สายตาพลันเหลือบไปเห็นส่วนนั้นของจ้านที่มันเสร็จพร้อมกันพอดี

          ปิ๊กใช้ทิชชู่เช็ดตามซอกขาด้านในให้จ้านจนสะอาด โดยที่ไม่สนใจเสียงเคาะประตูรอบที่สามสี่ห้าเลยด้วยซ้ำ

          “ป...ปิ๊กออกไปหาเพื่อนก่อนก็ได้ เดี๋ยวจ้านทำเอง”

          “ก็ได้”

          จำใจเอื้อมตัวลงไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำของจ้านที่ถอดทิ้งไว้บนพื้นขึ้นมาใส่ก่อน แล้วจึงค่อยก้าวเท้าเดินลงจากเตียงไปเปิดประตูให้เพื่อน แต่ชั่วขณะหนึ่งที่เหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออกก็เลยรีบหมุนตัวหันกลับมาหาจ้านพร้อมเอ่ยปากพูดบางสิ่งบางอย่างออกมา

          “อย่าเพิ่งอาบน้ำนะ เดี๋ยวปิ๊กมาต่อ”

          คำพูดเพียงสั้น ๆ ทำให้จ้านที่นั่งฟังอยู่บนเตียงหน้าแดงไปหมด ไม่กล้าขยับมือทำความสะอาดตัวเองและเตียงนอนต่อ แค่คำพูดของปิ๊กก็ทำเอาเขาเสียอาการจนต้องนั่งเขินอยู่อย่างนั้นยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองแล้วก็เพิ่งจะคิดได้ว่านี่เราเข้าใกล้คำว่าเมียจริง ๆ ของปิ๊กไปอีกขั้นนึงแล้วนะจ้าน

          แกจะได้ขึ้นเป็นฮองเฮาของปิ๊กจริง ๆ แล้วใช่ไหม






-------------------------------------- 
Hashtag : #ใจผมเป็นของคุณ 
มีต่อในจอยนะคะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น